Игра Aviator предлагает вам управлять множителем выигрыша, который растет с каждой секундой. Этот процесс завораживает и заставляет сердце биться быстрее. Попробуйте сами на авиатор игра.

Africabet promises not only a vast array of games but also a secure environment for all its players. Whether you're new to casinos or a seasoned player, https://africabet365net.com/ has something to offer.

Experience live-action and engage with real-time dealers in crazy time live, ensuring an authentic and interactive gaming experience.

เมโสแฟต หรือ ดูดไขมัน เลือกทำอะไรดีถึงจะเห็นผลที่ตรงใจ?

Anna Clinic SEO FEB C02 1

คำว่า “ไขมันสะสม” เป็นคำที่ไม่ว่าใครก็ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะนอกจากจะทำให้เสียความมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองแล้ว ไขมันใต้ผิวหนังที่สะสมมากขึ้นเรื่อยๆ อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาอีกด้วย หลายคนอาจจะเคยลองออกกำลังกายหรือคุมอาหารแต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งทางเลือกในการลดไขมันที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันก็คงหนีไม่พ้นเมโสแฟตและการดูดไขมัน

แต่คำถามที่ตามมาก็คือ “เมโสแฟต vs ดูดไขมัน เลือกทำอะไรดีถึงจะดีที่สุด?” เพื่อช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น วันนี้ Anna Clinic จะมาบอกความแตกต่างระหว่างวิธีการลดไขมันทั้งสองรูปแบบ ในฉบับที่เข้าใจง่ายๆ

 

ทำความรู้จักเมโสแฟต (Mesofat)

“เมโสแฟต” หรือ “การฉีดสลายไขมัน” คือ หัตถการที่ออกแบบมาเพื่อลดไขมันสะสมเฉพาะจุดในร่างกาย โดยป็นการฉีดตัวยาเข้าไปยังจุดที่ต้องการสลายไขมัน ทำให้คนไข้ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน

ตัวยาเมโสแฟตนั้นมีสารประกอบหลายอย่าง แต่จะมีสารออกฤทธิ์หลักอยู่ 3 ชนิด ได้แก่ สารเมโสสตาบิล (Mesostabyl), สารสกัดจากอาร์ติโชก (Artichoke Extract) และ แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) ซึ่งจะช่วยในการลดการสร้างเซลล์ไขมัน กระตุ้นการสังเคราะห์เอนไซม์ และกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน เพื่อให้ไขมันในจุดที่ฉีดแฟตสลายตัว และถูกกำจัดออกทางระบบขับถ่าย

ทั้งนี้ หลังฉีดเมโสแฟต ไขมันจะไม่สลายไปทั้งหมดในครั้งแรกแต่จะลดลงไปประมาณ 20 – 30% ซึ่งสามารถกลับมาฉีดใหม่ได้ทุกๆ 2 สัปดาห์ หรือตามการประเมินของแพทย์

 

ฉีดเมโสแฟต ตรงไหนได้บ้าง?

เมโสแฟตสามารถฉีดได้หลายจุดตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่มักมีไขมันสะสม  ซึ่งจุดที่หลายคนนิยมฉีดแฟต ได้แก่ แก้ม ใต้คาง เหนียง หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา น่อง และสะโพก

 

เมโสแฟต ราคาเท่าไหร่?

ราคาของเมโสแฟตนั้นขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นปริมาณซีซีที่ต้องใช้ ยี่ห้อเมโสแฟต (อ่านต่อเกี่ยวกับยี่ห้อเมโสแฟต) จำนวนครั้งที่ฉีด รวมไปถึงโปรโมชั่นที่คลินิกนำเสนอ โดยเฉลี่ยแล้วอาจมีราคาเริ่มต้นที่ 2,000 บาท ไปจนถึง 20,000 บาท หรือมากกว่า ทั้งนี้เมโสแฟตก็ถือเป็นหัตถการที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงง่าย เพราะมีราคาที่ไม่แพงมากและแก้ปัญหาไขมันได้ตรงจุด แถมยังใช้เวลาไม่นานก็เห็นผล จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมการฉีดสลายไขมันจึงเป็นตัวเลือกของใครหลายๆ คน

 

สรุปข้อดีของเมโสแฟต

  • ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากถึง 20% – 30% โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นเป็นเวลานาน
  • ลดไขมันเฉพาะจุดที่ต้องการได้อย่างเห็นผล เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา สะโพก
  • ช่วยลดไขมันจากสาเหตุต่างๆ ได้ เช่น ไขมันบางจุดที่ไม่สามารถลดได้จากการออกกำลังกายหรือคุมอาหาร พันธุ์กรรม ฮอร์โมน หรืออายุที่เพิ่มขึ้น
  • ใช้เวลาในการทำหัตถการไม่นาน เพียง 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ
  • ราคาไม่สูง เข้าถึงง่าย เมื่อเทียบกับวิธีการลดไขมันรูปแบบอื่น

พอได้รู้กันแล้วว่าการฉีดเมโสแฟตเป็นอย่างไร ทีนี้มาเราไปต่อกันที่การดูดไขมันกันเลย

 

การดูดไขมัน (Liposuction)

การดูดไขมัน (Liposuction) คือ การศัลยกรรมรูปแบบหนึ่งในการกำจัดปัญหาไขมันส่วนเกิน จำเป็นต้องมีศัลยแพทย์และทีมพยาบาลเข้ามาดูแล เนื่องจากเป็นการผ่าตัดศัลยกรรม และอาจมีการให้ยาสลบ นอกจากนี้คนไข้อาจมีอาการเจ็บ บวมช้ำ และต้องพักฟื้นหลังดูดไขมัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ สามารถปรับสัดส่วนร่างกายได้อย่างเหมาะสม

โดยศัลยแพทย์จะทำการเจาะรอยเล็กๆ บริเวณผิวหนัง มีขนาดประมาณ 0.5 – 1 เซนติเมตร จากนั้นจะสอดท่อเข้าไปเพื่อทำการดูดไขมันที่อยู่ในที่ใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ซึ่งท่อดังกล่าวนั้นต่อกับเครื่องดูดไขมัน ที่ในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันหลากหลายแบบ และมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป

ทั้งนี้ คลินิกดูดไขมันแต่ละแห่งจะคิดราคาดูดไขมันไม่เหมือนกัน ด้วยต้นทุนของเครื่องมือ การนับตำแหน่งดูดไขมันที่แตกต่างกัน ระดับการบริการที่ต่างกัน รวมไปถึงการทำหัตถการอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น การเติมไขมันหรือยกกระชับสัดส่วน ซึ่งราคาเริ่มต้นโดยเฉลี่ยอาจอยู่ที่ 20,000 บาท ไปจนถึงเกือบหลักแสน จึงถือเป็นวิธีการลดไขมันที่มีราคาสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับการฉีดเมโสแฟต

 

รูปแบบการดูดไขมัน

ปัจจุบันนี้ได้มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้มีเครื่องดูดไขมันหลากหลายแบบเกิดขึ้นมาด้วย ซึ่งมาแทนที่การดูดไขมันแบบดั้งเดิม (Conventional Liposuction) เพื่อทุ่นแรงของแพทย์ผ่าตัดและช่วยให้การดูดไขมันมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรูปแบบการดูดไขมันที่เป็นที่รู้จักมีดังนี้

  • Suction Assisted Liposuction (SAL) – การดูดไขมันด้วยการใช้ท่อธรรมดาที่มีแรงดูดสุญญากาศ เพื่อนำเอาเซลล์ไขมันที่แตกตัวออกมาโดยอัตโนมัติ จึงไม่ทำลายเนื้อเยื่อ เส้นเลือด หรือเส้นประสาทข้างเคียง
  • Radio Frequency (RF) – การดูดไขมันด้วยพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ ที่มีหลักการคล้ายกับ SAL แต่จะมีการใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุในระดับอุณหภูมิความร้อนที่ช่วยให้ผิวหนังกระชับขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการดูดไขมันพร้อมยกกระชับผิวนั่นเอง
  • Laser-Assisted Liposuction (LAL) – การดูดไขมันด้วยเลเซอร์ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการกำจัดไขมันที่ช่วยให้ผิวกระชับไปพร้อมๆ กัน ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลานานในการแสดงผลลัพธ์ แต่มีความปลอดภัยสูง
  • Power-Assisted Liposuction (PAL) – การดูดไขมันด้วยพลังงานกล ซึ่งเป็นการเพิ่มความถี่ของการขยับเข็มดูดไขมัน จนเกิดเป็นแรงสั่นสะเทือนทำให้ไขมันแตกตัวได้ง่ายขึ้น ทำให้สามารถดูดไขมันออกได้ในปริมาณมาก ลดการเสียดสีของเนื้อเยื่อและผิวหนัง
  • Ultrasonic Liposuction – การใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound) ในการดูดไขมัน ทำให้สามารถดูดไขมันปริมาณมากได้ในเวลาสั้นๆ คนไข้จะรู้สึกเจ็บน้อยกว่า
  • Water Jet Assisted Liposuction – การใช้พลังงานน้ำ ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่สุดในการดูดไขมัน โดยจะใช้แรงดันน้ำในการอัดน้ำที่ประกอบด้วยยาชา เพื่อให้เซลล์ไขมันแตกตัวอย่างอ่อนโยน ไม่ทำลายเนื้อเยื่อหรือเส้นเลือดรอบข้าง อีกทั้งไขมันที่ถูกดูดออกมาจะอยู่ในสภาพดี สามารถนำไปเติมเต็มส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เพื่อให้ดูสมส่วนมากขึ้น

 

 

สรุปข้อดีของการดูดไขมัน

  • ลดไขมันใต้ชั้นผิวหนังและลดสัดส่วนร่างกายได้อย่างเห็นผลทันที
  • เหมาะกับการลดไขมันสะสมเฉพาะจุดที่มีการสะสมมากและกำจัดออกได้ยาก เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือเอว
  • มีรูปแบบและเครื่องดูดไขมันให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับปัญหาที่มี
  • สามารถนำไขมันที่ดูดออกมาไปเติมเต็มส่วนที่ต้องการ เพื่อให้รูปร่างดูสมส่วนหรือเป็นไปตามความต้องการมากขึ้น (สำหรับเครื่องดูดไขมันพลังงานน้ำ)

จบกันไปแล้วกับเมโสแฟต vs ดูดไขมัน เท่านี้ก็เห็นแล้วว่าการกำจัดไขมันทั้งสองแบบเป็นอย่างไร แล้วเราเหมาะกับการทำอะไร ซึ่งสำหรับใครที่มีไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบก็อาจจะเหมาะกับการฉีดแฟต ส่วนใครที่ต้องการเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก และไม่กังวลเรื่องงบประมาณ การดูดไขมันอาจจะเป็นวิธีที่เหมาะสมนั่นเอง

 

ฉีดเมโสแฟตกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ Anna Clinic

สำหรับใครที่อยากจะฉีดเมโสแฟต ลดไขมันอย่างปลอดภัยและได้ประสิทธิภาพ โดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อ Anna Clinic ได้เลย

เพราะ Anna Clinic มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในเรื่องการปรับรูปหน้าให้บริการในทุกขั้นตอนการรักษา เราออกแบบรูปหน้าเป็นรายบุคคล (Individual Facial Design) ก่อนเริ่มต้นฉีดเมโสแฟต สามารถแก้ไขปัญหาไขมันสะสมได้ตรงจุดและให้ผลลัพธ์ที่โดนใจ ทั้งนี้ยังรวมไปถึงบริการอื่นๆ ของเรา เช่น โบท็อก ฟิลเลอร์ หรืออัลเทอร่า ด้วยตัวยาและเครื่องของแท้ที่ปลอดภัยและมีมาตรฐานรับรองจากอย. พร้อมดูแลทุกปัญหาและให้คำปรึกษา มั่นใจได้ว่าจะสามารถเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนและน่าพึงพอใจ

หากสนใจปรับรูปหน้าให้หรือต้องการคำปรึกษา สามารถติดต่อ Anna Clinic ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

โทร. 063-556-2626 หรือ LINE @annaclinic

อย่าลืมติดตามเราบน Social Media เพื่อติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ๆ

Facebook: Anna Clinic

Instagram: annaclinic

เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง