เมื่อพูดถึงเบบี้แฟต หรือ Baby Fat หลายคนอาจนึกถึงไขมันสะสมที่ทำให้ใบหน้าของเราดูอวบอิ่ม หลายคนอาจไม่ชอบเพราะทำให้ดูอ้วนหรืออิ่มจนเกินไป แต่ทราบหรือไม่ว่า Baby Fat อาจเป็นสิ่งที่หลายคนอยากคงไว้ เพราะหากผ่านกระบวนการหัตถการที่เหมาะสม ก็จะสามารถทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัย และยังเป็นจุดเด่นที่ช่วยให้ใบหน้าดูน่ารักน่าเอ็นดูอีกด้วย
เพื่อเป็นคู่มือให้กับหลายๆ คนที่อาจเพิ่งรู้จัก Baby Fat กัน วันนี้ Anna Clinic จะพามาทำความรู้จักทุกอย่างเกี่ยวกับ “ไขมันหน้าเด็ก” ที่กำลังได้รับความสนใจในปัจจุบันว่า คืออะไร ช่วยให้ดูหน้าเด็กลงอย่างไร
Baby Fat คืออะไร? เกี่ยวข้องอย่างไรกับหัตถการหน้าเด็ก?
Baby Fat หมายถึง ไขมันสะสมบนใบหน้าที่มักพบในช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่น โดยเฉพาะบริเวณแก้มและใต้คาง ไขมันส่วนนี้ช่วยให้ใบหน้าดูอวบอิ่ม มีชีวิตชีวา และอ่อนเยาว์ แต่เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ไขมันนี้มักจะลดลงตามไปกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย
อย่างไรก็ตาม ในบางคน Baby Fat อาจยังคงอยู่แม้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งขึ้นอยู่กับพันธุกรรม การใช้ชีวิต และการเผาผลาญของร่างกาย แต่เมื่อค่อยๆ ลดลง แน่นอนว่าหลายๆ คนก็อาจอยากมี Baby Fat มากขึ้นเพราะช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ แต่จะทำอย่างไรในเมื่อกลไกของธรรมชาตินั้นคอยเผาผลาญออกไป
คำตอบ หรืออาจจะกล่าวได้ว่าข่าวดีก็คือ ในปัจจุบันมีหลายวิธีที่ผู้เชี่ยวชาญสามารถเพิ่มหรือรักษา Baby Fat ให้ใบหน้าดูเด็กลงได้ หรือแม้แต่สร้างลุคอ่อนเยาว์อย่าง Baby Face ก็ยังทำได้ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้เรียกว่าการทำหัตถการ Baby Fat ซึ่งมีที่นิยมหลักๆ อยู่ 3 รูปแบบ ดังนี้
1. การเติมไขมัน (Fat Grafting)
คือ การย้ายไขมันจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา มาฉีดเติมในบริเวณแก้ม ขมับ หรือใต้ตา เพื่อให้ใบหน้าดูอิ่มฟูมากขึ้น ซึ่งวิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีความปลอดภัย เนื่องจากเป็นการใช้เซลล์ไขมันของคนไข้เอง
2. การฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็ม เช่น Hyaluronic Acid ที่สามารถเพิ่มความอิ่มเอิบให้แก้มและบริเวณใบหน้า เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และอยู่ได้นาน
3. การฉีดเมโสแฟต (Meso Fat)
การฉีดแฟต นับเป็นหัตถการที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันในบางจุดของร่างกาย เช่น แก้มป่องหรือเหนียง และปรับสมดุลไขมันบนใบหน้าให้พอดี ทั้งนี้ การเลือกเมโสแฟตยี่ห้อที่เหมาะสม เช่น Phytobella, Redlava หรือ V Line สามารถช่วยปรับลุคหน้าให้เรียวแต่ยังคงความอ่อนเยาว์ได้
Baby Fat จะหายไปตอนไหน?
ไขมันที่ทำให้ใบหน้าดูเด็กมักจะลดลงเมื่ออายุประมาณ 20-25 ปี เนื่องจากร่างกายเริ่มเผาผลาญไขมันสะสมได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับบางคน Baby Fat อาจยังคงอยู่ไปจนถึงวัย 30 ปีหรือมากกว่านั้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีพันธุกรรมใบหน้าอวบ หรือมีการเผาผลาญที่ช้ากว่าปกติ
ข้อดีของ Baby Fat
- ทำให้หน้าเด็ก: ใบหน้าที่มี Baby Fat จะดูอ่อนกว่าวัยและสดใสมากกว่า
- ช่วยปรับสมดุลรูปหน้า: ไขมันบนแก้มและใบหน้าช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ
- เสริมความมั่นใจ: สำหรับบางคน Baby Fat คือจุดเด่นที่ทำให้ใบหน้าดูน่ารัก
วิธีเพิ่ม Baby Fat เพื่อหน้าเด็ก
สำหรับผู้ที่อยากได้ลุคหน้าเด็กและสดใส สามารถทำได้ดังนี้
- ทานอาหารที่มีไขมันดี – เช่น อะโวคาโด ถั่ว และปลาที่มีโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยบำรุงผิวและทำให้ใบหน้าดูสดใส
- ออกกำลังกายหน้า – เช่น การนวดหรือโยคะหน้า ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและทำให้ผิวดูอิ่มฟู
- ดูแลผิวหน้าสม่ำเสมอ – ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นคอลลาเจน
- การทำหัตถการ Baby Fat – ดังที่กล่าวไปข้างต้น นอกเหนือจากการดูแลอย่างธรรมชาติ ผู้ที่อยากได้ลุคที่ดูอ่อนเยาว์ ยังสามารถทำหัตถการ Baby Fat อย่างการเติมไขมัน หรือการย้ายไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายที่ไม่ต้องการมาเติมลงในบริเวณที่ต้องการ หรือการฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มบริเวณแก้ม ขมับ หรือใต้ตาเพื่อให้ใบหน้าดูเด็กลงได้
อยากหน้าเด็กฉีดแฟตได้ไหม: Baby Fat และการฉีดแฟตต่างกันอย่างไร?
แม้ในข้างต้น จะมีการเอ่ยว่าการฉีดแฟตหรือเมโสแฟตถือเป็นหนึ่งในกระบวนการที่เราสามารถทำเพื่อคงความอ่อนเยาว์ได้ แต่ในเชิงเทคนิคกระบวนการแล้ว จริงๆ ต้องกล่าวว่า กระบวนการ Baby Fat และกระบวนการฉีดแฟตแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
กระบวนการฉีดแฟต หรือเมโสแฟต คือ ฉีดตัวยาเพื่อการลดไขมัน ส่วนกระบวนการ Baby Fat คือ กระบวนการที่เราต้องการเพิ่มไขมัน แม้ทั้งสองจะสามารถช่วยปรับให้ใบหน้าของเราดูเด็กลง แต่หากเป็นการฉีดแฟต ส่วนใหญ่ผลลัพธ์จะอยู่ในรูปของการทำให้บางส่วนของหน้าเล็กลง เช่น ลดเหนียง ลดต้นแขนต้นขา หรือปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น เป็นต้น
หัตถการนี้แตกต่างจากการฉีด Baby Fat ซึ่งคือการเพิ่มหรือเติมไขมันในบางส่วนที่หายไปให้อิ่มฟู หรือดูเต็ม เช่น การเพิ่มวอลลุ่มแก้ไขหน้าผากแบน หน้าผากยุบ ฉีดไขมันแก้ไขขมับตอบ เติมขมับให้อิ่มสวย หรือการเติมเต็มร่องลึกต่างๆ ให้ดูอิ่มเอม อ่อนเยาว์ไม่เหมือนอย่างเดิม
ดังนั้น คำตอบของคำถามที่ว่า “ฉีด Baby Fat กับ ฉีดแฟต เลือกแบบไหนดี?” จึงขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เข้ารับบริการเป็นหลัก ดังนี้
- เลือกฉีด Baby Fat หากต้องการเพิ่มไขมันเพื่อให้ใบหน้าดูอิ่มฟูและเด็กลง วิธีนี้ใช้การเติมไขมันด้วยการฉีดฟิลเลอร์หรือการย้ายไขมันจากส่วนอื่นของร่างกาย
- เลือกฉีดแฟต หากพบว่าตนเองกำลังมีไขมันสะสมมากเกินไป เช่น แก้มป่องหรือเหนียง แล้วต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
ทางที่ดีที่สุด คือ การปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสมที่สุด ถามความต้องการของตนเอง และสังเกตดูว่าเป็นจุดไหนที่เราต้องการที่สุดและอย่างไร ใครที่มีคำถามว่าอยากฉีดเมโสแฟต ยี่ห้อไหนดี ยังควรปรึกษาหรือศึกษาจากแพทย์หรือแต่ละคลินิกโดยตรงเนื่องจากแต่ละที่ย่อมมีการให้บริการเมโสแฟตยี่ห้อที่แตกต่างกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์คำตอบที่ใช่หรือตรงใจที่สุด
สรุป
Baby Fat หรือ ไขมันหน้าเด็ก หมายถึงองค์ประกอบทางธรรมชาติในใบหน้าของเราที่มีจุดเด่นคือมักทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และมีเสน่ห์ Baby Fat มักมีปริมาณลดลงตามวัย แต่ในบางคนก็ยังอาจคงอยู่หรือเพิ่มได้แล้วแต่กรรมพันธุ์และการดูแลตนเอง
การดูแลใบหน้าอย่างเหมาะสม เช่น การเลือกใช้วิธีทางธรรมชาติ หรือปรึกษาแพทย์เพื่อใช้วิธีการทางการแพทย์ เช่น การฉีด Baby Fat สามารถช่วยให้ใบหน้าของเราดูอ่อนเยาว์ และแก้ปัญหาบริเวณใบหน้าต่างๆ ที่อาจดูตอบ หรือต้องการการเติมเต็มได้ ส่วนการฉีดแฟตหรือที่มักเรียกเต็มๆ ว่าเมโสแฟตนั้นคือการลดไขมันที่เราไม่ต้องการ จึงต่างกับการฉีด Baby Fat อย่างสิ้นเชิง แม้จะช่วยให้ดูเด็กลงหรืออ่อนเยาว์ได้เช่นกัน
ส่วนใครที่กำลังมองหาคลินิกฉีด Baby Fay หรือฉีดเมโสแฟตที่ดี ต้องไม่ลืม Anna Clinic หนึ่งในผู้ให้บริการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการปรับรูปหน้า รูปร่าง และผิวพรรณอย่างตรงจุด เราสามารถให้คำปรึกษาในการปรับรูปหน้าได้อย่างครบถ้วน
เติม Baby Face ปรับลุคให้อ่อนเยาว์อย่างเห็นผลที่ Anna Clinic
แพทย์ประจำ Anna Clinic คือ ผู้เชี่ยวชาญในการปรับรูปหน้า รูปร่าง และผิวพรรณ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดเมโสแฟต ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดโบลดริ้วรอย ตลอดจนยกกระชับใบหน้าด้วยเครื่องอัลเทอร่า และหัตถการด้านความงามอื่นๆ อย่าง Baby Fat
มั่นใจและปลอดภัยกว่า ด้วยการบริการจาก Anna Clinic ซึ่งเลือกใช้ตัวยาแท้และอุปกรณ์การแพทย์ที่ได้รับมาตรฐาน ผ่านการรับรองมาตรฐานจากอย. พร้อมดูแลทุกปัญหาและให้คำปรึกษา
ปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงวันนี้ โทร. 063-556-2626 หรือ LINE @annaclinic และติดตามทุกข่าวสารในวงการความงามและโปรโมชั่นใหม่ๆ เฉพาะที่ Anna Clinic
Facebook: Anna Clinic
Instagram: annaclinic
TikTok: annaclinic
YouTube: Anna Clinic Official