>

ทำความเข้าใจ “ริ้วรอยหน้าผาก” วิธีป้องกันและแก้ไข

ทำความเข้าใจ “ริ้วรอยหน้าผาก” วิธีป้องกันและแก้ไข

ทำความเข้าใจ "ริ้วรอยหน้าผาก" วิธีป้องกันและแก้ไข

ริ้วรอยหน้าผาก เป็นปัญหาผิวหน้าที่หลายคนกังวล เพราะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความเสื่อมของผิวและวัยที่เพิ่มขึ้น โดยมักปรากฏเป็นเส้นตามแนวนอนบนหน้าผาก ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย เหนื่อยล้า และขาดความกระปรี้กระเปร่า แต่ทำไม ริ้วรอยหน้าผาก ถึงเกิดขึ้นได้? และเราจะป้องกันหรือลดเลือนปัญหานี้ได้อย่างไร?

หัวข้อทั้งหมด show

ในบทความนี้ Anna Clinic จะพาคุณทำความเข้าใจกับสาเหตุของ ริ้วรอยหน้าผาก พร้อมทั้งแนะนำวิธีป้องกันและแก้ไขปัญหานี้ ให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น

ริ้วรอยหน้าผากเกิดจากอะไรบ้าง?

ริ้วรอยหน้าผากเกิดจากหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอกร่างกาย เมื่อเราเข้าใจถึงสาเหตุเหล่านี้ เราจะสามารถหาวิธีป้องกันและรักษาได้ตรงจุด โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยหน้าผากมีดังนี้

1. อายุที่เพิ่มขึ้น

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวของเราจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอยหน้าผากได้ง่าย

2. แสงแดดและรังสี UV

รังสี UV จากแสงแดดเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของริ้วรอยก่อนวัย การไม่ป้องกันผิวจากแสงแดดจะทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

3. การแสดงสีหน้าซ้ำๆ

การขมวดคิ้ว ยกคิ้ว หรือแสดงสีหน้าซ้ำๆ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากทำงานมากเกินไป เมื่อเวลาผ่านไป จะเกิดร่องรอยบนผิวหนัง กลายเป็นริ้วรอยหน้าผากถาวร

4. ความเครียด

ความเครียดทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งส่งผลเสียต่อผิวหนัง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น และเร่งกระบวนการเสื่อมของเซลล์ผิว นอกจากนี้ คนที่เครียดมักจะขมวดคิ้วบ่อย ทำให้เกิดริ้วรอยหน้าผากได้เร็วขึ้น

5. การนอนไม่เพียงพอ

การพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ผิวไม่ได้ฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ เพราะระหว่างการนอนหลับ ผิวจะซ่อมแซมตัวเองและผลิตคอลลาเจนมากขึ้น การนอนน้อยจึงเป็นการเร่งให้เกิดริ้วรอยหน้าผากได้

6. พฤติกรรมการกิน

อาหารที่มีน้ำตาลสูงและการขาดสารอาหารสำคัญ เช่น วิตามิน C, E และโอเมก้า-3 ส่งผลต่อสุขภาพผิว การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปจะทำให้เกิดกระบวนการไกลเคชั่น (Glycation) ซึ่งทำลายคอลลาเจนและทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

7. การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

การสูบบุหรี่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระและลดการไหลเวียนของเลือดไปที่ผิวหนัง ส่วนแอลกอฮอล์ทำให้ผิวขาดน้ำ ทั้งสองปัจจัยนี้เร่งให้เกิดริ้วรอยหน้าผากได้เร็วขึ้น

 ทำความเข้าใจ "ริ้วรอยหน้าผาก" วิธีป้องกันและแก้ไข

วิธีลดริ้วรอยหน้าผากที่ทำได้เอง

วิธีลดริ้วรอยหน้าผากที่สามารถทำได้เองที่บ้านมีหลากหลายวิธี เช่น

1. ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย

ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล (Retinol), กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid), วิตามินซี (Vitamin C) และเปปไทด์ (Peptides) จะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยลดริ้วรอยหน้าผากได้

2. นวดหน้าเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด

การนวดหน้าด้วยเทคนิคที่ถูกต้องจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพิ่มออกซิเจนให้กับเซลล์ผิว และช่วยให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดีขึ้น 

3. รักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว

ผิวที่ขาดน้ำจะแสดงริ้วรอยได้ชัดเจนกว่า ดังนั้น ควรใช้มอยซ์เจอไรเซอร์เป็นประจำและดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวจากภายในสู่ภายนอก

4. เพิ่มการบริโภคอาหารที่ดีต่อผิว

อาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า-3, วิตามิน C E และสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวและต่อต้านริ้วรอย ควรเพิ่มปลาแซลมอน อโวคาโด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ถั่ว และผักใบเขียวในอาหารประจำวัน

5. จัดการความเครียด

การลดความเครียดด้วยการทำสมาธิ โยคะ หรือกิจกรรมผ่อนคลายอื่นๆ จะช่วยลดการผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล และลดแนวโน้มในการขมวดคิ้วหรือแสดงสีหน้าที่ก่อให้เกิดริ้วรอยหน้าผาก

6. นอนหลับให้เพียงพอ

การนอนหลับ 7-8 ชั่วโมงต่อคืนจะช่วยให้ผิวได้ฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ ควรนอนหงายและใช้หมอนที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันริ้วรอย เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดรอยยับจากหมอนบนใบหน้า

 

การรักษาริ้วรอยหน้าผากทางการแพทย์

หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนและรวดเร็วกว่า การรักษาทางการแพทย์อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ต่อไปนี้เป็นวิธีการรักษา ริ้วรอยหน้าผาก ที่ได้รับความนิยม

1. การฉีดโบท็อกซ์ (Botox)

โบท็อกซ์เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดในการรักษา ริ้วรอยหน้าผาก โดยการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน เข้าไปในกล้ามเนื้อบริเวณที่มีริ้วรอย เพื่อลดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น

ข้อดี: เห็นผลหลังฉีดแทบทันทีประมาณ 30% ไม่ต้องพักฟื้นนาน และผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ทำให้วิธีนี้เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วและไม่ต้องการหยุดพักการทำงาน

ข้อควรระวัง: อาจมีอาการบวม เขียวช้ำเล็กน้อยในช่วงแรก และหากฉีดมากเกินไปอาจทำให้หน้าแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ จึงควรเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกซ์โดยเฉพาะ

2. การฉีดฟิลเลอร์ (Fillers)

ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องลึกของริ้วรอยหน้าผากด้วยสารไฮยาลูรอนิก แอซิด ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน ร่องลึกตื้นและอิ่มน้ำมากขึ้น

ข้อดี: เห็นผลทันทีหลังการฉีด โดยไม่ต้องรอเวลานาน และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 เดือน ถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่คงทนยาวนาน

ข้อควรระวัง: อาจเกิดรอยช้ำ บวม หรือก้อนแข็งใต้ผิวหนังหลังการฉีด และหากฉีดไม่ถูกต้องอาจทำให้ใบหน้าไม่สมมาตร เห็นได้ชัดว่าความเชี่ยวชาญของแพทย์มีความสำคัญอย่างมากในการฉีดฟิลเลอร์

3. ร้อยไหม (Thread Lift)

การร้อยไหมเป็นการใช้เส้นไหมพิเศษสอดใต้ผิวหนังเพื่อยกกระชับและลด ริ้วรอยหน้าผาก

ข้อดี: ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและใช้เวลาในการทำน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์การยกกระชับที่ไม่ดูตึงเกินไป โดยไม่ต้องผ่าตัดแบบเต็มรูปแบบ

ข้อควรระวัง: อาจเกิดรอยช้ำ บวมหลังการทำหัตถการ และไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบาง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนตัดสินใจ

4. อัลเทอร่า (Ulthera)

อัลเทอร่าใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นลึกของผิวหนัง ช่วยยกกระชับผิวและลดริ้วรอยหน้าผากได้

ข้อดี: ไม่ต้องผ่าตัด ใช้ระยะเวลาประมาณ 30-45 นาที และผลลัพธ์เริ่มเห็นชัดเจนหลังการใช้บริการ 1-3 เดือน และอยู่ได้นานถึง 1.5-2 ปี ทำให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานโดยไม่ต้องทำซ้ำบ่อยๆ

ข้อควรระวัง: อาจมีอาการเจ็บเล็กน้อยและรู้สึกอุ่นๆ ระหว่างทำหัตถการ แต่สามารถแจ้งคุณหมอเพื่อลดระดับพลังงานได้ 

5. โอลิจิโอ (Oligio)

โอลิจิโอเป็นเทคโนโลยีการยกกระชับที่ใช้คลื่นวิทยุชนิด Monopolar RF ความถี่ 6.78 MHz ช่วยลดไขมันบริเวณใบหน้า พร้อมเสริมสร้างคอลลาเจนและกระชับผิว รวมถึงช่วยลดริ้วรอยหน้าผากได้เช่นกัน

ข้อดี: เจ็บน้อย ไม่มีอาการแสบร้อนขณะทำ ไม่ต้องแปะยาชาก่อนทำ ใช้เวลาทำเพียง 20-30 นาที ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม และไม่ต้องพักหน้า เห็นผลลัพธ์ประมาณ 20% ทันทีหลังทำ และเห็นผลเต็มที่ประมาณ 1-2 เดือน

ข้อควรระวัง: ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน -1 ปี ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิวเดิม การดูแลตัวเอง และปัจจัยภายนอกอื่นๆ จึงอาจต้องทำซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์

 

การป้องกันริ้วรอยหน้าผาก

สำหรับผู้ที่ริ้วรอยหน้าผากยังไม่ปรากฎชัดเจน และต้องการป้องกันการเกิดริ้วรอยหน้าผาก สามารถทำได้ด้วยวิธีเหล่านี้

  • ใช้ครีมกันแดดทุกวันแม้อยู่ในที่ร่ม
  • งดสูบบุหรี่และลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
  • หลีกเลี่ยงการขมวดคิ้วหรือยกคิ้วบ่อยๆ โดยไม่จำเป็น
  • สวมแว่นกันแดด เพื่อลดการขมวดคิ้วเมื่ออยู่กลางแจ้ง
  • ลดความเครียด ด้วยกิจกรรมผ่อนคลาย
  • นอนหลับให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน

หากคุณกำลังกังวลเกี่ยวกับริ้วรอยหน้าผากควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ความงามเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของคุณ คลินิกความงามที่มีมาตรฐาน เช่น Anna Clinic มีความเชี่ยวชาญในการรักษาริ้วรอยหน้าผาก ไปจนถึงการปรับรูปหน้าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและปลอดภัย และพร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการรักษาที่เหมาะสม

 

โปรแกรมลดริ้วรอยหน้าผาก กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ Anna Clinic

แพทย์ประจำ Anna Clinic คือ ผู้เชี่ยวชาญในการปรับรูปหน้า รูปร่าง ผิวพรรณ และโปรแกรมลดริ้วรอยหน้าผาก ทั้งการฉีดโบลดริ้วรอย ฉีดฟิลเลอร์ ยกกระชับใบหน้าด้วยเครื่องอัลเทอร่า เครื่อง Oligio และร้อยไหม นอกจากนี้ยังมีบริการสำหรับปรับรูปหน้าอีกมากมาย เช่น ฉีดสลายไขมัน แฟตเหนียง และเมโสแฟต 

มั่นใจและปลอดภัยกว่า เพราะ Anna Clinic เลือกใช้ตัวยาแท้และอุปกรณ์การแพทย์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองมาตรฐานจากอย. พร้อมดูแลทุกปัญหาและให้คำปรึกษา หากสนใจหรือต้องการคำปรึกษา สามารถติดต่อ Anna Clinic ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้ โทร. 063-556-2626 หรือ LINE @annaclinic

อย่าลืมติดตามเราบน Social Media เพื่อติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ๆ

Facebook: Anna Clinic

Instagram: annaclinic

TikTok: annaclinic

YouTube: Anna Clinic Official