>

โบท็อกโหนกแก้มดีไหม บอกข้อที่ควรรู้ พร้อมวิธีเตรียมตัวก่อน-หลังฉีด

โบท็อกโหนกแก้มดีไหม บอกข้อที่ควรรู้ พร้อมวิธีเตรียมตัวก่อน-หลังฉีด

Anna Clinic SEO FEB C06 1 1200x628

โหนกแก้มใหญ่หรือโหนกแก้มสูงเป็นปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูแข็ง ดุดัน โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องการให้ใบหน้าดูมีความอ่อนหวาน นุ่มนวลมากกว่า จนทำให้หลายคนขาดความมั่นใจ “โบท็อกโหนกแก้ม” จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหานี้ บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับวิธีการฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม ประโยชน์ ข้อควรระวัง และการดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังการฉีด

หัวข้อทั้งหมด show

โบท็อกโหนกแก้มคืออะไร?

โบท็อกโหนกแก้ม คือ การฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซิน ชนิดเอ (Botulinum Toxin Type A) เข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อโหนกแก้มในส่วนที่มีชื่อว่า “Zygomaticus” ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่พาดระหว่างโหนกแก้มและมุมปาก ทำหน้าที่ในการยกมุมปากขึ้นเวลายิ้มหรือหัวเราะ 

การฉีดโบท็อกลดโหนกแก้มจะช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ชั่วคราว ส่งผลให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง โหนกแก้มจึงมีขนาดเล็กลงตามไปด้วย ทำให้ใบหน้าดูเรียว มีมิติ ดูอ่อนเยาว์ และละมุนมากขึ้น

สาเหตุของโหนกแก้มใหญ่-สูง มีอะไรบ้าง?

สาเหตุของโหนกแก้มใหญ่-สูงมีหลายประการ ซึ่งจำเป็นต้องทราบสาเหตุก่อนที่จะตัดสินใจเลือกวิธีแก้ไข เพราะการฉีดโหนกแก้มด้วยโบท็อกซ์จะสามารถได้ผลดีเฉพาะสาเหตุที่เกิดจากกล้ามเนื้อเท่านั้น

1. พันธุกรรม

ในคนไข้บางรายอาจมีพันธุกรรมที่ทำให้โหนกแก้มดูใหญ่ โดยเป็นลักษณะโครงสร้างของใบหน้าที่มีกระดูกส่วนกลางบริเวณแก้มไม่สมดุลกับผิวหนังด้านนอก ทำให้ผิวยุบตามลงไปด้วยจนทำให้เห็นโหนกแก้มสูง

2. อายุที่มากขึ้น

เมื่อมีอายุมากขึ้น ไขมันบริเวณขมับและหน้าแก้มจะฝ่อตัวลง กระดูกจะเกิดการยุบตัวตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มองดูเป็นแอ่ง โหนกแก้มจึงดูเด่นขึ้น

3. การลดน้ำหนัก

การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วจะทำให้ไขมันที่หน้ายุบหายไปด้วย ส่งผลให้ใบหน้าจะดูตอบ ขมับยุบ จนทำให้โหนกแก้มเด่น หน้าดูโทรม ขาดความสดใส

4. การจัดฟัน

แม้การจัดฟันจะไม่ใช่สาเหตุที่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่เมื่อจัดฟัน โครงสร้างฟันจะถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งใหม่ ทำให้ผิวในตำแหน่งที่ฟันเปลี่ยนตำแหน่งยุบลง ส่งผลให้โหนกแก้มดูเด่นขึ้น และหน้าดูตอบลง

5. กรามเยอะ กรามใหญ่

กล้ามเนื้อกรามและกล้ามเนื้อโหนกแก้มทำงานสัมพันธ์กัน ทำให้คนที่มีกรามใหญ่มักมีโหนกแก้มสูงตามมาด้วย ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูใหญ่ กรอบหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยม

โบท็อกลดโหนกแก้มได้อย่างไร?

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น โบท็อกโหนกแก้มจะลดได้เฉพาะโหนกแก้มที่ใหญ่จากกล้ามเนื้อเท่านั้น ไม่สามารถลดโหนกแก้มใหญ่ที่เป็นโครงสร้างกระดูกได้ ซึ่งคุณสมบัติของโบท็อกซ์ คือ การยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาท ทำให้กล้ามเนื้อทำงานลดลงได้ชั่วคราว  โดยแพทย์จะฉีดโบท็อกเข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อไซโกมาติคัส (Zygomaticus) ซึ่งอยู่บริเวณโหนกแก้ม เพื่อยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อกล้ามเนื้อทำงานน้อยลง ส่งผลให้ขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณโหนกแก้มเล็กลง

ประโยชน์ของโบท็อกลดโหนกแก้ม

การฉีดโบท็อกลดโหนกแก้มมีประโยชน์หลายประการ ดังนี้

  1. ช่วยลดโหนกแก้มลง – ทำให้ใบหน้ามีมิติ ดูเรียวขึ้น คล้ายกับการลดขนาดกล้ามเนื้อกรามให้หน้าเรียว
  2. ช่วยเพิ่มความมั่นใจ คนไข้หลายเคสที่รู้สึกว่าตัวเองหน้าบาน หน้าใหญ่ มักจะเอาผมมาปิดข้างแก้ม เพื่อให้ดูหน้าเล็กลง แต่เมื่อลดโหนกแก้มแล้ว จะช่วยให้มีความมั่นใจในการมัดผมมากขึ้น
  3. ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และละมุนมากขึ้น – เพราะปัญหาโหนกแก้มใหญ่หรือสูงเกินไป ทำให้ภาพรวมใบหน้าดูแก่กว่าวัย ดูหน้าไม่อ่อนหวาน

ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม กี่วันเห็นผล และอยู่ได้นานไหม?

Anna Clinic SEO FEB C06 2 1200x628

หลังฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม คนไข้สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ กล้ามเนื้อโหนกแก้มจะค่อยๆ ลดเล็กลง คนไข้สามารถกลับไปฉีดซ้ำทุกๆ 3 – 6 เดือนได้ เพื่อคงผลลัพธ์ โดยระยะเวลาการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์บริเวณโหนกแก้ม โดยทั่วไปอยู่ได้นาน 5 – 6 เดือน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ด้วย ซึ่งบริเวณโหนกแก้มเป็นจุดที่ใช้กล้ามเนื้อบ่อยเวลายิ้ม ทำให้ในคนไข้แต่ละรายอาจคงผลลัพธ์ได้สั้นยาวต่างกัน

ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดโบท็อกโหนกแก้ม

ข้อดี

  • เป็นวิธีการลดโหนกแก้มที่สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
  • เจ็บน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดลดโหนกแก้ม
  • ช่วยปรับรูปหน้าที่ดูแข็ง ให้ละมุนขึ้น
  • ให้ผลลัพธ์ที่มีใบหน้าอ่อนเยาว์ขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ

ข้อสังเกต

  • ผลลัพธ์คงอยู่ไม่ถาวร สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ เพื่อคงผลลัพธ์
  • ไม่สามารถลดโหนกแก้มใหญ่ที่มีสาเหตุจากกระดูก และไขมันสะสม
  • อาจเกิดอาการดื้อโบท็อก ได้หากใช้ยาปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน

ก่อนฉีดโบท็อกโหนกแก้ม เตรียมตัวอย่างไร?

การเตรียมความพร้อมก่อนฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม มีความสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นไปตามต้องการ และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ดังนี้

  1. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับยี่ห้อโบท็อกต่างๆ เพื่อมั่นใจได้ว่าเป็นตัวยาของแท้ที่มีความปลอดภัย
  2. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าและการฉีดโบลดริ้วรอย
  3. ควรฉีดโบท็อกก่อนคอร์สทำหน้า นวดหน้า หรือเลเซอร์ เพราะต้องงดหัตถการเหล่านี้เป็นเวลา 2 สัปดาห์หลังฉีด
  4. งดยาในกลุ่มที่ลดการแข็งตัวของเลือด ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS เช่น ไอบูโพรเฟน, นาพรอกเซน, แอสไพริน
  5. งดสครับหน้า 2-3 วันก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเขียวช้ำ
  6. ปรึกษาแพทย์หากมีข้อห้าม เช่น หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

หลังฉีดโบท็อกโหนกแก้ม ดูแลตัวเองอย่างไร?

การดูแลตัวเองหลัง ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน ควรปฏิบัติดังนี้

ช่วง 3 ชั่วโมงแรก

  • ไม่ควรประคบเย็น เพราะจะขัดขวางการดูดโบท็อกเข้าเซลล์ประสาท
  • ไม่ควรนอนราบ รวมทั้งงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ

ช่วง 24 ชั่วโมงแรก

  • สามารถทาครีมทับบริเวณเข็มได้ และแต่งหน้าทับได้ปกติ

ช่วง 48 ชั่วโมงแรก

  • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด ทำเลเซอร์

ช่วง 2 สัปดาห์แรก

  • งดการทำหัตถการอื่นๆ เช่น เลเซอร์บนใบหน้า นวดหน้า รวมถึงการจับหรือสัมผัสใบหน้าแรงๆ
  • งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ รวมถึงงดการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ

ข้อแนะนำทั่วไป

  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารที่ต้องหน้าเตานาน ๆ แอลกอฮอล์ทุกชนิด
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น เลี่ยงการขยับกล้ามเนื้อในจุดที่ฉีดโบท็อกให้น้อยลง
  • รับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล หอยนางรม ไข่แดง เพื่อช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้น และอยู่ได้นานขึ้น

ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้มที่ไหนดี?

การเลือกสถานที่ ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม มีความสำคัญมาก ควรพิจารณาจากปัจจัย ดังนี้

  1. คลินิกได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขใบอนุญาต 11 หลักแสดงให้เห็นชัดเจน
  2. มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในการปรับรูปหน้า ฉีดโบท็อกซ์ อยู่ประจำคลินิก
  3. มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ โดยดูจากผู้ใช้บริการจริง พิจารณาจากแหล่งรีวิวที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ มีความเป็นปัจจุบัน
  4. ใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกแท้ ที่สามารถตรวจสอบได้ แพทย์ควรแกะกล่องและเปิดขวดใหม่ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง และให้กล่องคนไข้กลับบ้านได้เพื่อให้คนไข้สามารถเช็กกับบริษัทที่นำเข้าได้
  5. ราคาย่อมเยา ไม่สูงหรือต่ำต่างไปจากคลินิกอื่น ๆ มากเกินไป ซึ่งความแตกต่างของราคานั้นมักจะขึ้นกับประสบการณ์ของแพทย์
  6. มีการนัดดูผล ติดตามผลการรักษา และมีช่องทางให้สอบถามข้อมูลได้อย่างสะดวก

อยากลดโหนกแก้ม มีวิธีการใดได้อีกบ้าง?

นอกจาก ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม แล้ว ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้โหนกแก้มดูใหญ่ หน้าบาน เช่น:

  1. การฉีดเมโสแฟตลดแก้ม – ในเคสที่มีปัญหาหน้าใหญ่ หน้าบาน จากไขมัน จนรู้สึกว่ามีโหนกแก้ม
  2. เทคโนโลยียกกระชับ – เช่น Hifu/ Ulthera /Oligio ทำได้ในเคสที่มีสาเหตุจากผิวไม่กระชับ มีความหย่อนคล้อย
  3. การผ่าตัดโหนกแก้ม – วิธีนี้ทำในเคสที่มีปัญหาจากโครงสร้างกระดูก และคนไข้มีความต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง

การฉีดโบท็อกลดโหนกแก้มเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาโหนกแก้มใหญ่จากกล้ามเนื้อ ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เห็นผลชัดเจน ไม่ต้องผ่าตัด และใช้เวลาพักฟื้นน้อย อย่างไรก็ตามการเลือกแพทย์และสถานพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ซึ่ง Anna Clinic พร้อมให้บริการด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง เพื่อมอบความมั่นใจและรอยยิ้มที่สวยงามให้กับคุณ

ปรับรูปหน้า สร้างใบหน้าเรียวสวยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ Anna Clinic

แพทย์ประจำ Anna Clinic คือ ผู้เชี่ยวชาญในการปรับรูปหน้า รูปร่าง และผิวพรรณ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดเมโสแฟต ฉีดโบท็อกริ้วรอย ฉีดโบท็อกหน้าเรียว ลดกราม ยกกระชับใบหน้าด้วยเครื่องอัลเทอร่า หรือร้อยไหม รวมถึงหัตถการด้านความงามอื่นๆ

มั่นใจและปลอดภัยกว่า เพราะ Anna Clinic เลือกใช้ตัวยาแท้และอุปกรณ์การแพทย์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองมาตรฐานจากอย. พร้อมดูแลทุกปัญหาและให้คำปรึกษา หากสนใจหรือต้องการคำปรึกษา สามารถติดต่อ Anna Clinic ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้ โทร. 063-556-2626 หรือ LINE @annaclinic

อย่าลืมติดตามเราบน Social Media เพื่อติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ๆ

Facebook: Anna Clinic

Instagram: annaclinic

TikTok: annaclinic

YouTube: Anna Clinic Official