>

>

Oligio

oligio menu
Oligio นวัตกรรม RF

Oligio คือ เครื่องยกกระชับที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินของชั้นผิว พร้อมช่วยลดไขมันบริเวณใบหน้า ทั้งแก้มและเหนียง ซึ่งอาศัยพลังงานคลื่นวิทยุชนิดขั้วเดียวแบบ Monopolar RF ความถี่ 6.78 MHz ที่เจาะจงตำแหน่งทำให้เกิดความร้อนลงลึก 3 มม. (Deep Heating) สามารถลงลึกได้ตั้งแต่ชั้นบนสุดจนถึงชั้นไขมัน

เทคโนโลยีนี้ ถือว่าเป็นนวัตกรรมการยกกระชับใหม่ล่าสุด โดยคลื่นวิทยุจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างและจัดเรียงคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวมีความแข็งแรง เรียบเนียน กระชับขึ้น และช่วยลดไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิว ส่งผลให้กรอบหน้าเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเหนียง มีไขมันที่แก้ม มีริ้วรอย มีร่องลึก หรือใบหน้าหย่อนคล้อย

จุดเด่นที่สำคัญ คือ เจ็บน้อยมากๆ ไม่มีอาการแสบร้อนขณะทำ จึงไม่จำเป็นต้องแปะยาชาก่อนทำ อีกทั้งใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องพักหน้า

Oligio ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง
เป็นนวัตกรรมที่สามารถยกกระชับได้ทุกส่วนของร่างกาย โดยบริเวณที่ได้รับความนิยมมีดังนี้

  • บริเวณทั่วในหน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก รอบดวงตา คิ้ว หน้าแก้ม กรอบหน้า ใต้คาง(เหนียง)
  • บริเวณลำคอ

Oligio เหมาะกับใครบ้าง

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวหน้ายกกระชับมากขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการปรับกรอบหน้าให้ชัด รูปหน้าเล็กลง ดูเรียวมากขึ้น

  • ผู้ที่มีปัญหาเหนียงหรือไขมันใต้คางเยอะ

  • ผู้ที่ต้องการลดปัญหาริ้วรอย กระชับรูขุนขน   ปรับร่องแก้ม หรือร่องลึกอื่นๆ

  • ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาหนังตาตก เปลือกตาตก คิ้วตก หรือมุมปากตก

  • ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้างต้องการกระชับรูขุมชนให้มีขนาดเล็กลง

  • ผู้ที่มีลำคอเหี่ยวย่นตามวัย มีริ้วรอยที่ลำคอ

oligio เทคนิค anna clinic

ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

เชื่อมั่น #หมอเก่ง #เครื่องแท้ #บริการจริงใจ ที่ Anna Clinic

คุณหมอจะวิเคราะห์ผิวหน้า และรูปหน้าของผู้เข้ารับบริการ และออกแบบ ดีไซน์การรักษาเฉพาะบุคคล โดยพิจารณาระดับความหย่อนคล้อย ปริมาณไขมันที่แก้ม เหนียง และสาเหตุของความหย่อนคล้อยว่าเกิดจากผิวชั้นใด รวมถึงสอบถามความต้องการของผู้เข้ารับบริการ เพื่อรักษาได้อย่างตรงจุด และได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการมากที่สุด

  • เทคนิคการยิงเครื่องยกกระชับ Oligio ที่ Anna Clinic จะเรียกว่า Double V-line Technique ยิงเก็บกรอบหน้าบน-ล่าง เพื่อยกกระชับ เก็บแก้มห้อย และเหนียงที่หย่อนคล้อย เทคนิคนี้จะช่วยยกกระชับกรอบหน้าแบบขั้นกว่า ยกจริง เห็นผลหลังทำทันที 20% และเห็นผลชัดเจนที่ 1-3 เดือน

Anna Clinic ใช้เครื่องจากบริษัท Wontech บริษัทเครื่องมือการแพทย์และความงามจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานทั้งในไทย ยุโรป และอเมริกา จึงมีความปลอดภัยในการทำการรักษา และมั่นใจได้ว่าเป็นเครื่องแท้ มีใบ Certificate รับรอง

และที่สำคัญ Anna Clinic ติดตามผลการรักษาของผู้เข้ารับบริการอย่างใกล้ชิด เพื่อสอบถามผลลัพธ์ และความประทับใจของผู้ที่เข้ารับบริการ

ข้อดีของการทำ Oligo

  • Oligio เป็นนวัตกรรมที่มีความปลอดภัยผิว อีกทั้งขณะทำยังไม่รู้สึกแสบผิว เพราะเครื่อง Oligio มีระบบทำความเย็นอัจฉริยะ และระบบสั่น
  • ก่อนทำ เตรียมตัวน้อย ไม่จำเป็นต้องงดการรับประทานอาหาร หรือยาที่ทานเป็นประจำ เหมือนหัตถการประเภทอื่น
  • หลังทำ Oligio สามารถทาครีมบำรุงผิว ครีมกันแดดได้ตามปกติ
  • การทำ Oligio ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ขึ้นกับจำนวนช็อตในการยิง ซึ่งใช้เวลาน้อยมาก เมื่อเทียบกับหัตถการยกกระชับประเภทอื่นๆ

  • เห็นผลลัพธ์ประมาณ 20% ทันทีหลังทำ Oligio และเห็นผลเต็มที่ประมาณ 1-2 เดือน

  • ไม่จำเป็นต้องทายาชาก่อนทำ Oligio

ผลลัพธ์หลังทำ Oligio อยู่ได้นานแค่ไหน

ผลลัพธ์ของการทำ Oligio จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน-1 ปี เนื่องจาก Oligio จะส่งพลังงานเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ชั้นผิว จึงทำให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน ทั้งนี้ระยะความคงทนของผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิวเดิม การดูแลตัวเอง และปัจจัยกายนอกอื่นๆ ร่วมด้วย

oligio กี่ชอต anna clinic
oligio ราคา anna clinic

ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

เปรียบเทียบ Oligio ประสิทธิภาพกับเครื่องยกกระชับตัวอื่น

oligio vs ultraformer

Oligio ต่างจาก Ultrafomer III อย่างไร

  • Oligio ใช้คลื่น Monopolar RF ในการรักษา จะทำงานบริเวณผิวหนังชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว  เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสม มีแก้ม เหนียง คาง 2 ชั้น ต้องการลดไขมัน ให้ผิวแน่นกระชับ  เหมาะสำหรับผู้ที่มีกรอบหน้าไม่ชัด มีริ้วรอยรอบดวงตา
  • Ultraformer III ใช้คลื่น Macro and Micro Focused Ultrasound (MMFU) จะสามารถปล่อย พลังงานได้ถึงชั้น SMAS เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวหย่อนคล้อย ร่องแก้มชัด มีถุงใต้ตา มีริ้วรอย   คิ้วตก   มุมปากตก   แก้มหย่อนคล้อย

Oligio vs thermage

Oligio ต่างจาก Thermage FLX อย่างไร

  • Oligio และ Thermage FLX ใช้คลื่น Monopolar RF ในการรักษา แต่ Thermage FLX จะเป็นโปรแกรมยกกระชับที่ไม่มีการสลับพลังงานความร้อน และความเย็นในการรักษาเหมือนกับ Oligio

  • Thermage   FLX   หลังเปิดหัวทิปต้องทำให้เสร็จภายใน 2 ชั่วโมง ทำให้ไม่สามารถแบ่งหัวทิปได้ ต้องทำให้ครบตามจำนวนต่อ 1 หัว ยกตัวอย่างเช่น หัว 900 ช็อต หากคนไข้ต้องการเพียง 450 ช็อต จะต้องหาเพื่อนมาหารส่วนที่เหลือ และทำในช่วงเวลาเดียวกันเท่านั้น ส่วนนวัตกรรม Oligio ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา ปล่อยจำนวนช็อตได้อย่างต่อเนื่อง ปกติจะใช้เวลาในการรักษาไม่เกิน 30 นาที รวมถึงเลือกจำนวนช็อตตามปัญหาและงบประมาณได้

  • Thermage   FLX   ต้องทายาชาก่อนทำ ซึ่งระหว่างทำจะมีความรู้สึกอุ่นและเจ็บเล็กน้อย แต่ Oligio ไม่ต้องทายาชาเพราะ Oligio มีระบบทำความเย็น จึงสบายผิวมากขึ้นขณะทำ

oligio vs ulthera

Oligio ต่างจาก Ulthera SPT อย่างไร

  • Oligio ใช้คลื่น Monopolar RF ในการรักษา จะทำงานบริเวณผิวหนังชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้ผิว มีแก้ม เหนียง คาง 2 ชั้น ต้องการลดไขมัน และต้องการให้ผิวแน่นกระชับ มีกรอบหน้าไม่ชัด มีริ้วรอยรอบดวงตา
  • Ulthera SPT ใช้คลื่น Micro Focused Ultrasound With Visualization (MFU-V) ในการรักษา จะทำงานในบริเวณผิวหนังชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน และชั้น SMAS เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด ไม่ต้องการผ่าตัดดึงหน้า มีจอแสดงผลทำให้เห็นถึงความแม่นยำในการรักษา จะเห็นได้ว่าทั้งสองโปรแกรมยกกระชับจะทำงานกันคนละชั้นผิว ใช้คลื่นพลังงานในการรักษาที่แตกต่างกัน 

  • สามารถทำการรักษาทั้งสองโปรแกรมยกกระชับร่วมกันได้ เพื่อผลลัพธ์ในการรักษาที่ได้ผลลัพธ์ในการยกกระชับที่ดีที่สุด อีกทั้งยังเป็นการยกกระชับใบหน้าอย่างทั่วถึงทุกชั้นผิว ได้ผลการรักษาที่ดีกว่า

ทำ Oligio ร่วมกับหัตถการอื่นได้หรือไม่

สามารถทำร่วมกับหัตถการเสริมความงามอื่นๆ  เช่น เมโสแฟต ฟิลเลอร์ หรือโปรแกรมวิตามินอื่นๆได้ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย สามารถปรึกษาคุณหมอก่อน หรือวันที่เข้ารับบริการ

เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง