สำหรับใครที่มีปัญหาหน้าบาน เนื่องจากมีไขมันบริเวณแก้มมาก การฉีดแฟตแก้มเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดไขมันบริเวณแก้มได้อย่างตรงจุด ทั้งนี้ การฉีดแฟตแก้มมีข้อห้ามที่พึงทราบอยู่ โดยในบทความนี้ Anna Clinic จะพาไปรู้จักกับข้อห้ามก่อนฉีดแฟตและข้อห้ามหลังฉีดแฟตแก้ม เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพการทำงานของแฟตแก้ม
ฉีดแฟตแก้ม ข้อห้ามมีอะไรบ้าง?
การฉีดแฟตแก้ม คือ การฉีดเมโสแฟตเข้าไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว ส่งผลให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายผ่านระบบขับถ่าย แล้วการฉีดแฟตแก้ม ข้อห้ามมีอะไรบ้าง? ที่ควรรู้ ทั้งก่อนและภายหลังการฉีดแฟต เพื่อให้สามารถฉีดแฟตแก้มได้อย่างปลอดภัย และเห็นผลดีที่สุด
รวม 4 ข้อห้ามก่อนฉีดแฟต
โดยข้อห้ามก่อนฉีดแฟต ได้แก่
1.หยุดยาและอาหารเสริมบางประเภทก่อนฉีดแฟตแก้มอย่างน้อย 3 วัน
ควรหยุดยากลุ่ม NSAIDS, Dipyridamole และแอสไพริน รวมถึงอาหารเสริมบางประเภท เช่น อาหารเสริมอย่างน้ำมันปลา วิตามินอี และใบแปะก๊วย เป็นต้น เนื่องจากยาและอาหารเสริมเหล่านี้มีผลทำให้เกิดรอยช้ำจากเข็มได้ง่าย
2.งดดื่มแอลกอฮอลล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์มีผลทำให้หลอดเลือดขยายตัว ซึ่งเพิ่มโอกาสบวมช้ำและเลือดออกจากรอยเข็ม อีกทั้งแอลกอฮอลล์ยังมีผลให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะและคลื่นไส้ ทำให้แยกแยะได้ยากว่าอาการเหล่านี้เป็นผลข้างเคียงจากการฉีดแฟตแก้ม หรือผลข้างเคียงของแอลกอฮอลล์
3.งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
บุหรี่มีผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันลดลง ซึ่งเพิ่มโอกาสติดเชื้อจากรอยเข็มที่ฉีดเมโสแฟต
4.อย่าปล่อยให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้ง่าย ทำให้อาการบวมช้ำจากรอยเข็มหายได้ไวขึ้น
สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ต้องรับประทานยาเป็นประจำ หรือกำลังอยู่ระหว่างการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อน โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน ผู้มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้มีความผิดปกติเกี่ยวกับหลอดเลือด
รวม 4 ข้อห้ามหลังฉีดแฟต
ส่วนข้อห้ามหลังฉีดแฟต ได้แก่
1.งดขัดหน้า หรือทำทรีตเมนต์ใดๆ ทั้งสิ้นประมาณ 2-7 วัน
การขัดหน้า หรือทำทรีตเมนต์ต่างๆ จะไปกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง และทำให้มีการอักเสบหรือติดเชื้อได้
2.งดว่ายน้ำประมาณ 2-3 วัน
สระว่ายน้ำ หรือแหล่งน้ำต่างๆ มักมีเชื้อโรคที่ตามองไม่เห็นอยู่ อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อบริเวณรอยเข็มจากการฉีดแฟตแก้มได้
3.งดเข้าซาวน่าประมาณ 1 สัปดาห์
ความร้อนจากการทำซาวน่าจะทำให้หลอดเลือดขยายตัวมากขึ้น ส่งผลให้หลอดสูบฉีดได้ดีขึ้นตามไปด้วย ทำให้อาการบวมช้ำจากการฉีดเมโสแฟตหายช้า
4.งดดื่มแอลกอฮอลล์และสูบบุหรี่เป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน
เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์และบุหรี่มีผลให้ร่างกายฟื้นตัวได้ช้า ทำให้รอยช้ำจากเข็มหายช้าขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันต่ำลง ส่งผลให้ร่างกายเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย
โดยผลลัพธ์ของการฉีดแฟตแก้มขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งการดูแลตัวเองก่อน-หลังฉีดแฟตแก้ม ยี่ห้อเมโสแฟตที่ใช้ และปริมาณของเมโสแฟต ซึ่งปกติแล้วการฉีดแฟตแก้มจะใช้เมโสแฟตปริมาณ 3-6 ซีซีต่อข้าง
แนะ 3 วิธี ช่วยเสริมผลลัพธ์การฉีดเมโสแฟต
นอกจากข้อห้ามต่างๆ มีข้อควรปฏิบัติที่ช่วยเสริมผลลัพธ์การฉีดเมโสแฟตแก้มอยู่ด้วย คือ
1.ดื่มน้ำให้มาก
หลังการฉีดเมโสแฟตแก้ม ควรดื่มน้ำประมาณ 2 ลิตรต่อวัน เพื่อให้ร่างกายขับไขมันผ่านระบบขับถ่ายได้ดีขึ้น
2.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายนำสารอาหารมาเปลี่ยนเป็นพลังงานมากขึ้น ลดการเปลี่ยนสภาพเป็นไขมันใหม่ที่ไปสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
3.ควบคุมพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
พยายามลด ละ เลิกพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่ดี เช่น ชอบรับประทานของทอด ของมัน ของหวาน รวมถึงการรับประทานจุกจิกระหว่างวัน ซึ่งจะก่อให้เกิดการสะสมไขมันใหม่
อย่างไรก็ตาม การฉีดแฟตแก้มควรเลือกฉีดกับสถาบันความงามที่เชื่อถือได้ ดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใช้เครื่องมือทางการแพทย์และเมโสแฟตที่มีมาตรฐาน
แนะนำฉีดแฟตแก้มกับ Anna Clinic
แพทย์ประจำ Anna Clinic คือ ผู้เชี่ยวชาญในการปรับรูปหน้า ไม่ว่าจะเป็นการฉีดแฟตแก้ม ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ยกกระชับใบหน้าด้วยเครื่องอัลเทอร่า โบท็อกลดกราม และหัตถการด้านความงามอื่นๆ เพื่อให้ใบหน้าสวยได้รูป อีกทั้ง Anna Clinic ยังเลือกใช้ตัวยาที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา และดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากนี้ เรายังเป็นผู้เชี่ยวชาญในหัตถการด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโบท็อก ฟิลเลอร์ แฟตเหนียง หรือเมโสแฟต
มั่นใจและปลอดภัยกว่า เพราะ Anna Clinic เลือกใช้ตัวยาแท้และอุปกรณ์การแพทย์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองมาตรฐานจากอย. พร้อมดูแลทุกปัญหาและให้คำปรึกษา หากสนใจฉีดสลายไขมันแก้มหรือเหนียง หรือต้องการคำปรึกษา สามารถติดต่อ Anna Clinic ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
โทร. 063-556-2626 หรือ LINE @annaclinic
อย่าลืมติดตามเราบน Social Media เพื่อติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ๆ
Facebook: Anna Clinic
Instagram: annaclinic
TikTok: annaclinic
YouTube: Anna Clinic Official