>

เรื่องควรรู้ก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ ดูแลตัวเองอย่างไรให้ฟิลเลอร์อยู่กับเราได้นานๆ

เรื่องควรรู้ก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ ดูแลตัวเองอย่างไรให้ฟิลเลอร์อยู่กับเราได้นานๆ

Anna Clinic SEO MAY C01 1

มลภาวะ ความเครียด อายุที่เพิ่มขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ผิวพรรณขาดความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็น ตีนกา ร่องแก้ม หรือร่องหน้าผาก หลายคนจึงเริ่มหันมาดูแลตัวเองผ่านหัตถการความงามอย่าง “ฟิลเลอร์” เป็นตัวช่วยในการเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกและคืนความอ่อนเยาว์ให้กลับมาอีกครั้ง เพราะบางทีการใช้แค่ครีมบำรุงอาจไม่พอ

สาวๆ หลายคนที่คิดจะหันมาดูแลตัวเองด้วยการฉีดฟิลเลอร์อาจกำลังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลตัวเองก่อนและหลังการรักษา ซึ่ง Anna Clinic ได้รวบรวมข้อแนะนำมาแบบเข้าใจง่ายๆ มาไว้ให้แล้วในบทความนี้!

ฟิลเลอร์คืออะไร?

ฟิลเลอร์เป็นสาร “ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid)“ ที่ใช้เติมเต็มส่วนที่หย่อนคล้อยและแก้ไขปัญหารูปหน้าไม่สมส่วน โดยสามารถช่วยสาวๆ แก้ไขปัญหาริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนใบหน้า เติมเต็มร่องริมฝีปากให้ดูอิ่มและปรับให้เป็นทรงสวย รวมไปถึงแก้ปัญหาแก้มตอบที่มักจะเกิดขึ้นเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังให้ผลพลอยได้ในเรื่องของผิวพรรณ เพราะช่วยเพิ่มและรักษาความชุ่มชื้น กระชับรูขุมขน พร้อมทำให้ผิวกระชับเปล่งปลั่ง การฉีดฟิลเลอร์จึงถือว่าเป็นหัตถการที่มีข้อดีมากมายจนกลายมาเป็นที่นิยมในหมู่ผู้รักสวยรักงามในที่สุด

เพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์

โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะใช้เวลาในการฉีดฟิลเลอร์ไปยังชั้นผิวหนังประมาณ 15 – 30 นาที ไม่ว่าจะเป็นการเติมเต็มหรือปรับรูปหน้า ในขณะทำหัตถการ คนไข้จะมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อย โดยอาการบวม ปวด ตึงบริเวณที่ฉีดจะหายได้เองใน 1 – 2 วัน และผลลัพธ์ของฟิลเลอร์จะอยู่ได้นาน 6 – 12 เดือนและสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และคนไข้สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ตามความเหมาะสม แต่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ

ข้อควรระวังก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์

 

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

1.ต้องมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงปกติ

ผู้ที่สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง ไม่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในภาวะให้นมบุตร และถ้าหากมีโรคประจำตัวหรือทานยาเป็นประจำควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้าก่อบรับการรักษาทุกครั้ง

2.ศึกษาข้อมูลก่อนรับการรักษา

คนไข้ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์อย่างละเอียด ทั้งข้อดี – ข้อเสีย ยี่ห้อของฟิลเลอร์ รวมไปถึงคลินิกและแพทย์ที่ต้องการเข้ารักษา ควรเลือกใช้บริการกับคลินิกฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานและมีการรับรอง มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงก่อนและหลังฉีดเพื่อประกอบการตัดสินใจ นอกจากนี้ ควรปรึกษากับแพทย์ก่อนเพื่อให้วินิจฉัยปัญหาและรับการรักษาตามดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

3.หยุดการใช้ยาที่ต้านการแข็งตัวของเลือด

ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 2 สัปดาห์ ควรงดยาแอสไพริน ยาต้านการอักเสบ NSAIDS เช่น Ibruprofen หรือ Naproxen เพื่อป้องกันอาการบวมช้ำ รวมถึงงดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก

4.งดอาหารและเครื่องดื่มบางประเภท

งดการสูบบุหรี่หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะทำให้เลือดแข็งตัวยากและให้เกิดการฟกช้ำได้ง่าย นอกจากนี้ ควรงดการรับประทานอาหารเค็มและอาหารที่มีโซเดียมสูงก่อนฉีดเพราะทำให้เกิดอาการน้ำคั่ง อาจทำให้ร่างกายบวมเพิ่มขึ้นได้

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์

ไม่ควรบีบ นวด กดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์แรงๆ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือผิดรูป ส่งผลให้ผลลัพธ์ไม่เป็นตามที่หวังไว้ อย่างไรก็ตาม หลังฉีดอาจเกิดอาการคันหรือบวมเข็มได้ ซึ่งถ้าหากเกิดอาการคันหรือระคายเคือง แนะนำว่าห้ามเกาเด็ดขาดเพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบตามมาก ส่วนอาการบวมจะยุบลงได้เองเมื่อผ่านไป 7 – 14 วัน โดยสามารถประคบเย็นช่วย หากมีอาการปวดหรือระบมมากขึ้นสามารถทานยาพาราเซตามอลทุก 4 ชั่วโมง และสามารถล้างหน้า ทาครีมบำรุง หรือแต่งหน้าได้ตามปกติ

2.หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนบนใบหน้า

ใน 48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด ไม่ควรโดนความร้อนหรืออุณหภูมิสูงเกินไป เพราะจะทำให้ผิวยืดหดได้มากกว่าปกติ ซึ่งส่งผลต่อการเซตตัวของฟิลเลอร์ ควรงดการทำกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าเกิดความร้อน เช่น อบซาวน่า แช่น้ำอุ่น ออกกำลังกายหนักๆ นวดหน้าด้วยความร้อน หรือทำเลเซอร์ต่างๆ เพราะหลังจากฉีดฟิลเลอร์จะมีรอยเข็มบนใบหน้า ความร้อนอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองหรือมีผื่นขึ้นได้ง่าย

3.หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลต่อการทำให้เลือดแข็งตัว

การฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดตัวยาลงไปในผิวหนังชั้นลึกซึ่งอาจโดนเส้นเลือดขณะฉีด การทานยาที่ต้านการแข็งตัวของเลือดอย่าง Ibruprofen หรือ Naproxen อาจทำให้เลือดหยุดไหลช้าและทำให้เกิดอาการช้ำได้ง่าย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงยาชนิดนี้ทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์

4.ดื่มน้ำเปล่ามากๆ

ควรดื่มน้ำประมาณ 2.5 ลิตรหรือตามที่ร่างกายให้เพียงพอต่อวัน เพื่อให้ฟิลเลอร์ฟู ดูเต็มเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานยิ่งขึ้น เพราะฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูรอนที่มีฤทธิ์ในการอุ้มน้ำนั่นเอง

5.หลีกเลี่ยงอาหารเสริมบางชนิด

งดการรับประทานวิตามินอี น้ำมันอีฟนิงพริมโรส น้ำมันปลา รวมถึงสารสกัดจากโสม กระเทียม ขิง และใบแปะก๊วย เพราะจะทำให้เกิดการฟกช้ำได้ง่ายกว่าปกติ

6.งดการทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง

งดการผลัดเซลล์ผิวหรือการทายาที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวทุกชนิด เช่น AHA, BHA หรือ Retinoids รวมถึงงดการแว็กซ์ ถอนขน ใช้ครีมกำจัดขน โกนขน หรือย้อมสีเส้นขนบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะจะทำให้ผิวบอบบางลงและเกิดการระคายเคืองได้ง่าย เสี่ยงต่อการอักเสบหรือติดเชื้อ

ข้อควรปฏิบัติทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์เป็นเรื่องที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ ดังนั้นหากสาวๆ ต้องการให้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ออกมาสวยเป็นธรรมชาติและอยู่กับเราได้นาน ก็ควรทำตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัด และถ้าหากกำลังมองหาคลินิกฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานสักที่ ลองเก็บ Anna Clinic ไว้เป็นตัวเลือกด้วยนะ

 

Anna Clinic คลินิกฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน

เรามีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในเรื่องการปรับรูปหน้าให้บริการในทุกขั้นตอนของจากฉีดฟิลเลอร์ จึงมั่นใจได้ว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ซึ่งถ้าหากสนใจสามารถติดต่อ Anna Clinic ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

เบอร์โทรศัพท์ 063-556-2626 หรือ LINE @annaclinic

ติดตามเราบน Social Media เพื่อไม่พลาดข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ๆ

Facebook: Anna Clinic

Instagram: annaclinic