เทรนด์การดูแลตัวเองที่เป็นกระแสมาแรงของคนยุคใหม่ ส่งผลให้ให้การทำหัตถการต่างๆ ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยปัจจุบันนี้ก็มี “คลินิกฟิลเลอร์” เปิดให้บริการมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นในเขตกทม. ก็ดีหรือตามต่างจังหวัดก็ดี
แต่ด้วยจำนวนคลินิกที่เกิดขึ้นมากมายในตอนนี้ อาจทำให้หลายคนลำบากใจ ไม่รู้ว่าจะเลือกคลินิกฟิลเลอร์ที่ไหนดี ถึงจะดูดี ปลอดภัย ได้หมอที่เชี่ยวชาญมาดูแล ถ้าอยากรู้คำตอบ อ่านบทความนี้ต่อได้เลย!
รู้จักฟิลเลอร์ก่อนเริ่มค้นหาคลินิก
สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่าฟิลเลอร์คืออะไร เราได้นำคำตอบมาให้แล้ว โดย ฟิลเลอร์ (Filler) ที่คลินิกต่างๆ นำมาใช้กันในปัจจุบันนี้คือตัวยา ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ถูกสังเคราะห์ขึ้นมาโดยเลียนแบบคอลลาเจนที่มีอยู่ในร่างกายของเรา มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำให้ใต้ชั้นผิว และช่วยเพิ่มเส้นใยคอลลาเจน ส่งผลให้บริเวณที่ฉีดดูเต่งตึงและดูมีน้ำมีนวลขึ้น พร้อมเติมเต็มร่องลึกและลดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี สามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า อาทิ หน้าผาก คาง ร่องแก้ม ปาก ใต้ตา กรอบหน้า ฯลฯ
ฟิลเลอร์จึงเป็นหัตถการที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหา อาทิ
- ใบหน้าแก่กว่าวัย – ปัญหาใต้ตาคล้ำลึก ใบหน้าดูไม่สดชื่น ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมนั้นดูแก่กว่าวัยอย่างเห็นได้ชัด
- ข้อบกพร่องบนใบหน้า – คางสั้น ปากบางเกินไป แก้มไม่อวบอิ่ม หรือขมับตอบ ส่งผลให้หลายคนขาดความมั่นใจ ซึ่งเราสามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
- ปัญหาจากอายุที่เพิ่มขึ้น – เมื่อมีอายุสูงขึ้น หลายคนมักพบปัญหาเรื่องใต้ตาที่ลึกมากขึ้น แก้มย้อย ขมับตอบ การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยไม่ต้องพักฟื้น และคงความเป็นธรรมชาติของใบหน้าได้
- ปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับผิว – รูขุมขนกว้าง หลุมสิวบนใบหน้าที่รักษาไม่หาย
นอกจากนี้ ฟิลเลอร์นั้นเป็นหัตถการที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ไม่ต้องทำการพักฟื้น พูดง่ายๆ ว่าฉีดเสร็จก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที แต่ถึงอย่างนั้นก็มีผลข้างเคียงที่ควรระวังเอาไว้ ประกอบกับต้องดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมด้วย (อ่านเพิ่มเติม)
เลือกคลินิกฟิลเลอร์ที่ไหนดี ถึงได้ผลลัพธ์ชัดเจนและปลอดภัย?
มาถึงคำถามโลกแตกที่หลายคนกำลังสงสัยและเป็นกังวล จะเลือกคลินิกฟิลเลอร์ที่ไหนดีล่ะ? ท่ามกลางจำนวนคลินิกที่มีมากมายนี้ ก็มีปัจจัยหลายๆ อย่างที่สามารถบอกได้ว่าคลินิกหรือแพทย์ประจำคลินิกนั้นน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน มีประสิทธิภาพในการรักษามากเพียงใด ฉะนั้นมาดูปัจจัยต่างๆ ที่ควรนำไปใช้พิจารณากันเลย
1. มีการใช้ประเภทฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler) เท่านั้น
ผู้ที่เพิ่งเริ่มศึกษาอาจจะไม่ทราบว่าฟิลเลอร์มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่ ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler) ที่เป็นสารเติมเต็มในรูปแบบของซิลิโคนหรือพาราฟิน ซึ่งไม่สามารถสลายไปเองได้ จึงไม่นิยมนำมาใช้กับใบหน้า ประเภทต่อมาคือ ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler) ไม่สามารถสลายไปได้เองทั้งหมด ซึ่งฟิลเลอร์ทั้งสองประเภทอาจมีผลข้างเคียงในระยะยาวหากคนไข้ไม่ฉีดยาสลายฟิลเลอร์
ปัจจุบันนี้จึงได้มีการใช้งานฟิลเลอร์ประเภทสุดท้าย คือ ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler) กันเป็นมาตรฐานเลยก็ว่าได้ เพราะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจากอย.ไทย ดังนั้น ไม่ว่าจะเลือกคลินิกใดก็ตาม ต้องแน่ใจว่าคลินิกเหล่านั้นใช้ฟิลเลอร์แบบชั่วคราวเท่านั้น และต้องพึงระวังฟิลเลอร์ปลอมให้ดีด้วย
2. สังเกตฟิลเลอร์แท้ ก่อนเริ่มฉีดทุกครั้ง
เพื่อความปลอดภัยในอีกระดับ เราควรสังเกตฟิลเลอร์ที่แพทย์นำมาฉีดทุกครั้ง ว่าเป็นยี่ห้อแท้และมีบริษัทนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย โดยทั่วไปสามารถสังเกตได้จาก
- มีเลขทะเบียนอย. ที่กล่องถูกต้อง
- มีเอกสารกำกับเป็นภาษาไทย
- เลข Lot ที่กล่อง ซอง สติกเกอร์หรือหลอดต้องตรงกัน
- สามารถนำเลข Lot ไปตรวจสอบกับบริษัทผู้นำเข้าได้
ที่สำคัญ คือ ก่อนฉีดทุกครั้งควรให้คุณหมอแกะกล่องแกะหลอดฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า และหลังฉีดควรเก็บกล่องและหลอดฟิลเลอร์กลับบ้านหรือถ่ายรูปเก็บไว้ตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ที่ได้มาตรฐานจริงๆ
3. มีการรีวิวจากผู้ใช้งานที่น่าเชื่อถือและเป็นในทิศทางที่ดี
ความน่าเชื่อถือของคลินิกหรือสถานประกอบการถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่ง โดยคุณภาพของการบริการ ผลลัพธ์ และฝีมือของแพทย์ล้วนสามารถสะท้อนออกมาในรูปแบบของรีวิวหรือคอมเมนต์ ซึ่งทุกวันนี้ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะดูรีวิวต่างๆ ตามสื่อโซเชียลมีเดีย และคำบอกต่อแบบปากต่อปาก เราจะสามารถรับรู้ได้ทั้งเรื่องข้อดีและข้อด้อยของคลินิกเหล่านั้น รวมถึงบางครั้งอาจมีการนำภาพถ่ายก่อน-หลังทำมาให้ได้ดูกันด้วย เรียกได้ว่าเป็นข้อมูลที่ส่งผลต่อการตัดสินใจอย่างมากเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาและสังเกตอย่างใกล้ชิดว่าการรีวิวนั้นๆ เป็นของจริง ไม่ใช่การโฆษณาเรียกว่าเป็นการ “ซื้อรีวิว” แต่อย่างใด ควรตรวจสอบให้ดีไม่ว่าจะเป็นรูปก่อน-หลังทำ หรือจะเป็นวิดีโอก็ตาม
4. การนัดติดตามผลและการให้คำแนะนำ
คลินิกฟิลเลอร์ที่ดีจะมีการติดตามผลการรักษาของคนไข้ เพื่อติดตามผลลัพธ์ว่าเป็นไปตามที่คาดหวังหรือเปล่า มีปัญหาหรืออาการข้างเคียงเกินขึ้นหรือไม่ โดยที่ทางคลินิกนั้นควรมีการนัดติดตามผล และให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองทั้งก่อนทำ-หลังทำอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
5. มีที่ตั้งชัดเจนและเดินทางสะดวก
อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของหลายๆ คน แม้การฉีดฟิลเลอร์จะไปหัตถการที่ใช้เวลาไม่นานมาก แต่หากต้องใช้เวลาเดินทางนานๆ ก็อาจจะทำให้เราเหนื่อยหรือล้าได้ ดังนั้นควรเลือกคลินิกที่เดินทางสะดวก มีพื้นที่จอดรถ หรือตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ที่เป็น Landmark เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา
อีกเรื่องที่ต้องคำนึง คือ การนัดคิวที่ถึงแม้จะระบุเวลาที่แน่นอน แต่บางเคสอาจมีความยากง่ายสลับกันไป ดังนั้นแพทย์อาจจะต้องใช้เวลามากกว่าเดิมในการทำหัตถการ ซึ่งคนไข้ก็ควรเผื่อเวลาเข้าคิวประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ดังนั้นการเข้าใช้บริการกับคลินิกฟิลเลอร์ที่เดินทางสะดวก ใกล้บ้าน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อแนะนำในการเลือกคลินิกฟิลเลอร์ ใครที่กำลังตามหาคลินิกที่ตอบโจทย์อยู่ ต้องไม่ลืมที่จะนำข้อพิจารณาเล่านี้เป็นปัจจัยในการตัดสินใจด้วย และหากต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าตัวจริง สามารถเข้ามาปรึกษากับ Anna Clinic ได้เลยวันนี้
Anna Clinic คลินิกฟิลเลอร์ดูแลโดยหมอผู้เชี่ยวชาญ
สำหรับใครที่อยากฉีดฟิลเลอร์ใบหน้าหรือต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาผิวหน้า Anna Clinic มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในเรื่องการปรับรูปหน้าให้บริการในทุกขั้นตอนการรักษา เราออกแบบรูปหน้าเป็นรายบุคคล (Individual Facial Design) ก่อนเริ่มต้นทำหัตถการ ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ โบท็อก เมโสแฟต หรืออัลเทอร่า ด้วยตัวยาและเครื่องของแท้ที่ปลอดภัยและมีมาตรฐานรับรองจากอย. พร้อมดูแลทุกปัญหาและให้คำแนะนำที่ตอบโจทย์ปัญหาของคนไข้รายบุคคล มั่นใจได้ว่าจะสามารถเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนและน่าพึงพอใจ
หากสนใจปรับรูปหน้าให้หรือต้องการคำปรึกษา สามารถติดต่อ Anna Clinic ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
โทร. 063-556-2626 หรือ LINE @annaclinic
อย่าลืมติดตามเราบน Social Media เพื่อติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ๆ
Facebook: Anna Clinic
Instagram: annaclinic
YouTube: Anna Clinic Official
TikTok: annaclinic