>

การปรับรูปหน้าแบบไหนเหมาะกับใคร มาหาวิธีที่เหมาะกับตัวเองกัน!

การปรับรูปหน้าแบบไหนเหมาะกับใคร มาหาวิธีที่เหมาะกับตัวเองกัน!

Anna Clinic SEO FEB C04 1

การดูแลตัวเองหรือ “Self-Care” ให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพจิตที่ดี กลายเป็นเทรนด์มีความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากการออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ และการรู้ทันอารมณ์ตัวเองแล้ว การทำหัตถการเสริมความงามอย่างการ “ปรับรูปหน้า” ก็เป็นการดูแลตัวเองอย่างหนึ่ง ที่ช่วยให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น และดูดีที่สุดในแบบของตัวเอง

แต่ถึงอย่างนั้น หัตถการปรับรูปหน้าก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการฉีดโบท็อก ฉีดแฟต ฉีดฟิลเลอร์ หรือแม้แต่การทำอัลเทอร่า ทั้งหมดล้วนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลายคนจึงมีคำถามว่า “ใครบ้างควรปรับรูปหน้า” และ “หัตถการไหนเหมาะกับเรา”  ดังนั้นมาดูกันเลยว่าการปรับรูปหน้าแบบไหนเหมาะเรามากที่สุด!

 

ใครบ้างควรปรับรูปหน้า?

เชื่อว่าหลายคนอาจเคยมองว่าหัตถการเสริมความงามนั้นเป็นอะไรที่เหมาะกับผู้หญิงเท่านั้น แต่ในความจริงแล้วผู้ชายก็สามารถทำได้  นอกจากนี้ ในการปรับรูปหน้านั้นไม่ได้มีการจำกัดเพศหรือวัย ทุกคนที่อยากดูแลตัวเองสามารถทำได้ทั้งสิ้น ตั้งแต่ช่วงอายุ 20 ปี 30 ปี หรือ 40 ปีขึ้นไปก็ทำให้ตัวเองดูดีได้ มีความมั่นใจในการทำงาน การพบปะผู้คน รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันด้วย

พูดง่ายๆ ว่าใครที่กำลังหันมาดูแลตัวเองและอยากเพิ่มความมั่นใจ ต้องไม่พลาดที่จะทำหัตถการปรับรูปหน้าควบคู่ไปกับการดูแลตัวเองในด้านอื่นๆ ด้วย

 

การปรับรูปหน้าแบบไหนเหมาะเราที่สุด

หัตถการการเสริมความงามของใบหน้าในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งในบทความนี้ Anna Clinic ขอยกตัวอย่าง 4 หัตถการยอดนิยมมาให้เปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ดังนี้

1. การฉีดโบท็อก (Botox)

เมื่อพูดถึงโบท็อก (Botox) คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นหนึ่งในหัตถการอันดับต้นๆ ที่นำมาใช้ปรับรูปหน้าเรียวและลดริ้วรอยตามจุดต่างๆ บนใบหน้า โดยโบท็อก หรือ สารโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) นั้นเป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทไม่ให้สื่อสารกับกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใช้งานมีขนาดเล็กลง เมื่อเราขยับกล้ามเนื้อใบหน้าก็จะไม่เกิดรอยพับหรือรอยย่นนั่นเอง อีกทั้งยังใช้ในการลดขนาดกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณกรามเพื่อปรับรูปหน้าให้เล็กลงและมีรูปหน้าเรียวขึ้น

การฉีดโบท็อกจึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาบนใบหน้าที่มีสาเหตุมาจาก “กล้ามเนื้อ” สามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ อาทิ ลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับกรอบหน้า ทำให้ผิวเรียบเนียน แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น นอกจากนี้แพทย์ยังสามารถนำโบท็อกมาใช้ในการลดเหงื่อใต้วงแขน ฝ่ามือและฝ่าเท้า บรรเทาอาการไมเกรน และโรคในกลุ่มออฟฟิศซินโดรมอีกด้วย

โดยทั่วไป หลังฉีดโบท็อกแล้ว คนไข้จะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์ขึ้นไป และ โบท็อกจะออกฤทธิ์เต็มที่ประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังฉีด โดยเฉลี่ยโบท็อกจะมีฤทธิ์อยู่ที่ 4 – 6 เดือน และสามารถสลายไปเองได้โดยไม่ทิ้งสารตกค้างใดๆ ในร่างกาย ลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าได้อย่างไร้กังวล

 

2. เมโสแฟต (Mesofat)

การฉีดแฟต หรือ เมโสแฟต (Mesofat) เป็นหัตถการที่คุณหมอแนะนำ โดยเฉพาะกับผู้ที่มีปัญหา “ไขมันสะสม” เพราะเมโสแฟตเป็นหัตถการที่สามารถช่วยในกระบวนการสลายไขมันของร่างกาย ตัวยาเมโสแฟตนั้นมีส่วนผสมหลักอย่าง L-Carnitine, Mesostabyl และ Artichoke Extract ในการกระตุ้นระบบเผาผลาญและการสังเคราะห์ Coenzyme เพื่อเร่งกลไกการสลายไขมัน ซึ่งแต่ละยี่ห้ออาจมีการใส่ส่วนผสมอื่นๆ เข้าไปเพื่อช่วยในด้านต่างๆ เพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งไขมันที่สลายตัวออกนั้นจะถูกขับออกตามกลไลธรรมชาติของร่างกายผ่านระบบปัสสาวะ

เมโสแฟตจึงสามารถกำจัดไขมันเฉพาะจุดแบบถาวร ไม่ว่าจะเป็นแก้มหรือคาง ช่วยให้รูปหน้าชัดเจนมากยิ่งขึ้น หรือจะใช้ในการกำจัดไขมันตามจุดอื่นๆ ของร่างกาย อย่างต้นแขน ต้นขา หรือหน้าท้อง ซึ่งไขมันจะสลายไปได้ราวๆ 10 – 15% และสามารถเห็นผลลัพธ์เต็มที่ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์หลังฉีด ทั้งนี้จำนวนไขมันสะสมของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน บางคนอาจต้องกลับมาฉีดแฟตย้ำอีกครั้ง โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินการรักษาที่เหมาะสมให้แต่ละบุคคล แต่ที่สำคัญคือหลังฉีดสลายไขมันแล้ว ควรควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมากวนใจนั่นเอง

 

3. ฟิลเลอร์ (Filler)

สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยร่องลึกตามจุดต่างๆ บนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นเพราะอายุที่มากขึ้น การใช้ชีวิตประจำวัน มีสัดส่วนใบหน้าที่ไม่เข้าหรือไม่น่าพึงพอใจ การปรับรูปหน้าด้วยการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เป็นทางออกที่สามารถช่วยได้ โดยฟิลเลอร์ (Filler) เป็นการฉีดสารเติมเต็มที่เรียกว่ากรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) เพื่อใช้ทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิวอย่างคอลลาเจนและไฮยาลูรอน ช่วยให้ผิวหนังกลับมามีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และเต่งตึง ช่วยลดริ้วรอยตามจุดต่างๆ รักษาร่องแก้มลึก ความหย่อนคล้อยบริเวณใต้ตาและใต้ตาดำคล้ำ ช่วยปรับรูปหน้าโดยรวมให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้

ฟิลเลอร์ที่ใช้งานในปัจจุบันและผ่านการรับรองจากอย.ไทย นั้นคือประเภท “Temporary Filler” หรือ “ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว” ที่สามารถสลายไปเองได้ตามธรรมชาติภายใน 6 – 12 เดือน ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย จึงมีความปลอดภัยต่อร่างกาย หากสงสัยว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี? สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

4. อัลเทอร่า (Ulthera)

อัลเทอร่า (Ulthera) เป็นหนึ่งในเครื่องมือยกกระชับ ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่สามารถช่วยในการยกกระชับและปรับรูปหน้าได้ โดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด โดย Ulthera จะใช้ “High Intensity Focused Ultrasound” หรือ คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูงแบบเฉพาะจุด ยิงเข้าไปยังชั้นผิวหนัง SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นลึก ชั้นเดียวกันกับที่แพทย์ศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า กระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการหดตัว สร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ และผิวจะค่อยๆ เต่งตึงขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งการทำอัลเทอร่านั้นเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก อีกทั้งผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก U.S. FDA และอย.ไทย

คลื่นอัลตราซาวด์จากเครื่องอัลเทอร่าที่ถูกยิงเข้าไปยังผิวหนังจะมีลักษณะเป็นจุดพลังงานความร้อนขนาด 1 มม. มีลักษณะเป็นจุดไข่ปลาเล็กๆ และมีอุณหภูมิประมาณ 60 – 70 องศาเซลเซียส จึงลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้หลายจุดบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นกรอบหน้า ใต้คาง ลำคอ เหนียง หรือรอบดวงตาและใต้ตา

หลังการทำอัลเทอร่า คนไข้จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ 20% และผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 1 – 3 เดือน นอกจากนี้ ผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่นานประมาณ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ และการดูแลตัวเอง

การปรับรูปหน้าแบบไหนเหมาะกับใคร มาหาวิธีที่เหมาะกับตัวเองกัน!

จบไปแล้วกับหัตถการปรับรูปหน้ายอดนิยมที่ได้มาแนะนำกันในบทความนี้ เชื่อว่าพออ่านจบแล้ว หลายคนคงมีคำตอบในใจแล้วว่าการปรับรูปหน้าวิธีไหนเหมาะกับตัวเองมากที่สุด แต่หากใครที่ยังไม่แน่ใจ หรือต้องการคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถเข้ามาปรึกษา Anna Clinic ได้เลย

 

Anna Clinic ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการปรับรูปหน้า

Anna Clinic มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในเรื่องการปรับรูปหน้าให้บริการในทุกขั้นตอน เราจะออกแบบรูปหน้าเป็นรายบุคคล (Individual Facial Design) ก่อนเริ่มต้นทำหัตถการ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ เมโสแฟต หรือทำอัลเทอร่า ด้วยตัวยาและเครื่องของแท้ที่ปลอดภัยและมีมาตรฐานรับรอง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติที่สุด พร้อมดูแลทุกปัญหาอย่างตรงจุด มั่นใจได้ว่าจะสามารถเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนและน่าพึงพอใจ

หากสนใจทำหัตถการปรับรูปหน้าหรือต้องการคำปรึกษา สามารถติดต่อ Anna Clinic ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

โทร. 063-556-2626 หรือ LINE: @annaclinic

อย่าลืมติดตามเราบน Social Media ติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ๆ ก่อนใคร

Facebook: Anna Clinic

Instagram: annaclinic