>

รู้จักใต้ตาดำภูมิแพ้ พร้อมแนะวิธีแก้ขอบตาดำภูมิแพ้แบบเห็นผล

รู้จักใต้ตาดำภูมิแพ้ พร้อมแนะวิธีแก้ขอบตาดำภูมิแพ้แบบเห็นผล

7 1

ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาดำหลายคนพบว่า ใต้ตาดำไม่ดูกระจ่างใสขึ้น แม้จะมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหลับพักผ่อน และทาอายครีมบำรุงเป็นประจำ โดยมีความเป็นไปได้ว่า ปัญหาใต้ตาดำลักษณะนี้อาจเกิดจากโรคภูมิแพ้ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างตรงจุด เพื่อช่วยให้ใต้ตาดูกระจ่างใสขึ้น 

ในบทความนี้ Anna Clinic จะพาไปทำความรู้จักกับใต้ตาดำภูมิแพ้ วิธีเช็กใต้ตาดำจากภูมิแพ้ และวิธีแก้ขอบตาดำภูมิแพ้แบบเห็นผล

ใต้ตาดำภูมิแพ้

ใต้ตาดำสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ขาดการบำรุงผิวบริเวณใต้ตาอย่างเหมาะสม การเสื่อมโทรมของโครงสร้างใบหน้า อายุที่มากขึ้น กรรมพันธุ์ รวมถึงโรคภูมิแพ้ด้วยเช่นกัน โดยสาเหตุที่โรคภูมิแพ้ทำให้ใต้ตาดำคล้ำ ได้แก่

  1. การอักเสบของหลอดเลือดดำ

    เมื่อร่างกายสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ ระบบภูมิคุ้มกันจะหลั่งสารฮีสตามีน (Histamine) ออกมา ซึ่งมีผลให้หลอดเลือดดำใต้ตาอักเสบ ทำให้ใต้ตาดูดำคล้ำ

  2. การขยี้หรือถูใต้ตา

    สารฮีสตามีนก่อให้เกิดการระคายเคืองบริเวณดวงตา กระตุ้นให้เกิดการขยี้หรือถูใต้ตา ทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตา

  3. การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ

    ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้บางรายมีปัญหาด้านการนอนหลับ เนื่องจากหายใจไม่สะดวก ส่งผลให้นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอและทำให้ใต้ตาดำคล้ำ

  4. การสะสมของเม็ดสีเมลานิน (Melanin)

    สารฮีสตามีนเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ผิวหนังบริเวณใต้ตาสร้างและสะสมเม็ดสีเมลานิน ทำให้ใต้ตาดูหมองคล้ำ 

วิธีเช็กอาการขอบตาดำจากภูมิแพ้

การแก้ขอบตาดำให้เห็นผล จำเป็นที่จะต้องทราบสาเหตุที่ทำให้ใต้ตาดำก่อน โดยวิธีเช็กอาการหรือสัญญาณเตือนของขอบตาดำจากภูมิแพ้ ได้แก่

  1. น้ำมูกไหล

    น้ำมูกมีลักษณะใสและมีปริมาณมากกว่าปกติ

  2. คันจมูกและตา

    รู้สึกคันในโพรงจมูกและบริเวณดวงตา

  3. จามหรือคัดจมูก

    จามบ่อยกว่าปกติ หรือมีอาการคัดจมูก ทำให้หายใจลำบาก

  4. ระคายเคืองบริเวณดวงตา

    การระคายเคืองบริเวณรอบดวงตาสามารถสังเกตได้จากอาการแสบ หรืออาการตาบวมแดง

อาการเหล่านี้เป็นอาการของโรคภูมิแพ้ ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำปฏิกิริยากับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ และอื่นๆ หากมีอาการเหล่านี้ร่วมกับขอบตาดำจะสันนิษฐานได้ว่า ใต้ตาดำคล้ำเกิดจากโรคภูมิแพ้

รวม 4 วิธีแก้ขอบตาดำภูมิแพ้

ใต้ตาดําภูมิแพ้แก้ยังไง? การแก้ขอบตาดําภูมิแพ้สามารถทำได้หลายวิธี โดยในบางกรณีจำเป็นต้องทำมากกว่า 2 วิธี ร่วมกัน เพื่อผลลัพธ์การรักษาใต้ตาดําภูมิแพ้ที่ชัดเจน 

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้

    สิ่งสำคัญที่สุดในการแก้ไขใต้ตาดำภูมิแพ้ คือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันของแต่ละบุคคลมีปฏิกิริยาต่อสารก่อภูมิแพ้ต่างชนิดกัน อาทิ ฝุ่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ และอื่นๆ

  2. การทาอายครีม

    อายครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินซี (Vitamin C) วิตามินอี (Vitamin E) คาเฟอีน (Caffeine) หรือกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) จะช่วยลดการสะสมของเม็ดสีเมลานินบริเวณใต้ตา ทำให้ใต้ตาดูกระจ่างใสขึ้น

  3. นวดกดจุดใต้ตา

    การนวดกดจุดบริเวณใต้ตาอย่างเบามือจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตของหลอดเลือดดำ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนดียิ่งขึ้น และไม่กระจุกตัวอยู่บริเวณใต้ตา ทำให้ผิวบริเวณใต้ตาดูหมองคล้ำน้อยลง

  4. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

    การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีการที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน โดยการฉีดฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid จะช่วยลดการขยายตัวของเส้นเลือดบริเวณใต้ตา ช่วยพยุงผิวที่มีการยุบตัวให้อิ่มฟูขึ้น ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และช่วยเติมน้ำให้กับผิว ทำให้ผิวใต้ตาดูอิ่มฟูและกระจ่างใสขึ้น

นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายังช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำที่เกิดจากโครงสร้างใบหน้ายุบตัว อันมีสาเหตุมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในทันที และชัดเจนขึ้นในช่วง 2-4 สัปดาห์ ซึ่งประสิทธิภาพของฟิลเลอร์จะคงอยู่ประมาณ 1.5-2 ปี ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ปริมาณ และยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีการแก้ใต้ตาดำภูมิแพ้ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์มีข้อห้ามที่พึงระมัดระวัง เพื่อป้องกันผลลัพธ์ข้างเคียงไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงการกดหรือนวดบริเวณใต้ตา
    อาการบวมบริเวณใต้ตาหลังฉีดเป็นเรื่องปกติ ซึ่งสามารถหายได้เองภายใน 5-7 วัน โดยให้หลีกเลี่ยงการกดหรือนวดบริเวณใต้ตา เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เสียรูป อักเสบ หรือติดเชื้อได้
  2. ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่ง
    โดยปกติ แพทย์จะสั่งจ่ายยาลดบวมและป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ควรหยุดรับประทานยาด้วยตนเอง ยกเว้นในกรณีที่ได้รับอนุญาตจากแพทย์
  3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอุณหภูมิร้อนจัด
    ในช่วงแรกหลังฉีด ฟิลเลอร์จะยังเซ็ตตัวได้ไม่เต็มที่ ซึ่งต้องอาศัยเวลาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอุณหภูมิร้อนจัด เพราะมีโอกาสทำให้ฟิลเลอร์ละลายเสียรูป หรือเคลื่อนที่ไปผิดตำแหน่ง
  4. งดการรับประทานอาหารหมักดองและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    อาหารหมักดองและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คือ ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นการอักเสบของร่างกาย ทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังมีส่วนกระตุ้นการขยายตัวของหลอดเลือด ทำให้บริเวณใต้ตาหายบวมช้าลง

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดําภูมิแพ้ควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด และผลลัพธ์ของการรักษาใต้ตาดำที่เห็นผล นอกจากนี้ ควรเลือกคลินิกด้านความงามที่น่าเชื่อถือ มีการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน และใช้ฟิลเลอร์แท้ที่สามารถตรวจสอบได้

5

แนะนำฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับ Anna Clinic

แพทย์ประจำ Anna Clinic คือ ผู้เชี่ยวชาญในการปรับรูปหน้า ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โบท็อกลดกราม ฟิลเลอร์ปาก  และหัตถการด้านความงามอื่นๆ เพื่อใบหน้าที่เรียวสวยได้รูป อีกทั้ง Anna Clinic ยังเลือกใช้ตัวยาแท้ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอย. และดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

นอกจากนี้ เรายังเป็นผู้เชี่ยวชาญในหัตถการด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นฉีดโบท็อกริ้วรอย เมโสแฟต หรือยกกระชับใบหน้าด้วยเครื่องอัลเทอร่า

มั่นใจและปลอดภัยกว่า เพราะ Anna Clinic เลือกใช้ตัวยาแท้และอุปกรณ์การแพทย์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองมาตรฐานจากอย. พร้อมดูแลทุกปัญหาและให้คำปรึกษา หากสนใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือต้องการคำปรึกษา สามารถติดต่อ Anna Clinic ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

โทร. 063-556-2626 หรือ LINE @annaclinic

อย่าลืมติดตามเราบน Social Media เพื่อติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ๆ

Facebook: Anna Clinic

Instagram: annaclinic

TikTok: annaclinic

YouTube: Anna Clinic Official